จากกรณี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เพิงพัก จำนวน 3 หลัง บริเวณเลียบคลองลำรี (หลังหมู่บ้านบัวทองธานี) หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถน้ำจากจากเทศบาลเมืองบางบัวทอง จำนวน 2 คัน รีบตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นลานดินกว้าง มีเพิงพักปลูกด้วยเมทัลชีท จำนวน 4 หลังติดกัน มีผู้พักอาศัยอยู่ประมาณ 9 คน เป็นครอบครัวเดียวกัน นายศักรินทร์ มะปูเลาะห์ อายุ 23 ปี พร้อมคนในครอบครัวได้นำไม้ไปคุ้ยเขี่ยในซากที่เพลิงไหม้เพื่อหาสิ่งของที่มีค่าเผื่อหลงเหลืออยู่แต่ก็ไม่พบอะไรเหลือรองเท้านักเรียนของลูกสาวเพียงคู่เดียว
นายศักรินทร์ มะปูเลาะห์ อายุ 23 ปี เล่าว่าทั้ง 9 คนในบ้านแต่ละคนเหลือเสื้อผ้าชุดเดียวที่ติดตัวมานอกจากนั้นเพลิงไหม้หมดชุดนักเรียนลูกของตนก็ไม้หมดไม่มีเหลืออะไรเลยโชคยังดีมีคนเข้ามาช่วยยกทีวีออกมาทันเครื่องหนึ่งและคืนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่สจะพาครอบครัวไปนอนที่ไหนมีผู้ใหญ่บ้านบอกกับตนว่าเดี๋ยวเช่าห้องให้พักห้องหนึ่งตนก็คิดว่าไม่ไปดีกว่าคืนนี้ตนและครอบครัวคงต้องปูเสื่อนอนใต้ต้นไม้ถ้าฝนตกมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ที่ไหนต้องหาเงินชื้อโครงสร้างมาปลูกบ้านอีกส่วนสังกสีที่ยังพอใช้ได้ก็เก็บมาวางรวมกันเพื่อที่จะปลูกบ้านไหม่ซึ่งในขณะเดียวกันนางกาญจนา สุภารมย์ ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรีเดินทางลงที่เกิดเหตุพร้อมเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น
นางกาญจนา สุภารมย์ กล่าวว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาในขณะที่ตนเข้าประชุมอยู่ได้มีลูกบ้านโทรมาบอกว่าเพลิงลุกไหม้บ้านผู้ยากไรจำนวน 4 ห้องซึ่งมีผู้พักอาศัยอยู่ทั้งหมด 9 คนซึ่งทั้ง9 คนเป็นครอบครัวเดียวกันตนประชุมเสร็จจึงรีบมาดูในวันนี้หาอะไรเข้ามาช่วยไม่ทันซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำข้าวสารอาหารแห้งเครื่องนุ่งห่มโครงเหล็กสังกสีเป็นบางส่วนเพื่อสร้างบ้านไหม่เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี