ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พระสมจิตร เจ้าอาวาสวัดเวียคะดี้ ต.หนองลู อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นาย วิชัย ไทรสังขสินดำรง ผู้ใหญ่บ้านเวียคะดี้ หมู่ 5 จ.กาญจนบุรี เดินทางมาจาก อำเภอ สังขละ จังหวัดกาญจนบุรีมาที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ่อและแม่ของ นาย สีวะ หรือเณร โจ่เพล อายุ 16 ปี สัญชาติกระเหรี่ยง ได้เข้ามาบอกกับเจ้าอาวาสว่า ลูกชายซึ่งบวชเป็นเณรอยู่ได้หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ พระที่วัดจึงช่วยกันออกตามหาจนมาทราบว่าเณรโจ่เพล อยู่ที่ สภ.บางบัวทอง จึงประสานเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านเดินทางเพื่อที่จะมารับกลับวัด แต่พอมาถึงกลับไม่พบตัวเณร พบเพียงจีวรและแค่สายประคตคาดเอว 1 เส้น วางอยู่บนเคาเตอร์หนังสือของโรงพักพร้อมโน๊ตข้อความเขียนว่า “ผมกลับวัดถ้าเข่าปูน ผมชื่อศรีวะ อายุ 16 ปี ผม.”
พระสมจิตร เจ้าอาวาสวัดเวียคะดี้ เล่าว่า เณรเขาเป็นคนกระเหรี่ยงพูดไม่ค่อยชัด และกำลังอยู่ในช่วงหัดเขียนภาษาไทย บวชอยู่ที่วัดมาได้ประมาณปีกว่าๆแล้ว ช่วงปีแรกๆไม่มีปัญหาอะไร นิสัยเขาเหมือนเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร คล้ายคนโลกส่วนตัวสูง ขนาดอาตมาเป็นเจ้าอาวาสเวลาเจอหน้าเขายังไม่ค่อยคุยไม่ค่อยกล้าสบตา ที่วัดเขาก็ไม่เคยมีปัญหากับใครและไม่เคยเล่าอะไรให้อาตมาฟัง แต่เขาเริ่มมีพฤติกรรมแบบนี้ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว คือชอบเดินออกจากวัดที่อยู่นี้ไปวัดอื่นๆที่อยู่ภายในตัวอำเภอ และมีอีกหลายครั้งในช่วงหลังๆ นี้ พ่อแม่เขาก็เคยมาบอกว่าเณรเหมือนจะมีอาการป่วยทางจิต แต่ครั้งนี้ผิดปกติมากเพราะเขาไม่เคยออกมาไกลขนาดนี้จากจังหวัดกาญจนบุรีมาที่นนทบุรีมันไกลมาก 300 กว่ากิโล แล้วหายมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมายังไงถึงมาอยู่ที่นี่ได้ก็ยังสงสัยอยู่
พระสมจิตร เล่าอีกว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้อาตมาได้รับการติดต่อจากพระที่วัดลาดปลาดุก ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเณรรูปนึงตอนนี้อยู่ที่โรงพักบางบัวทอง จึงประสานทางผู้ใหญ่บ้านให้รีบเดินทางเพื่อมารับตัวกลับวัดที่กาญจนบุรี พอมาถึงก็ทราบข้อเท็จจริงว่ามีชาวบ้านพบเณรเดินอยู่บริเวณถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี จึงเข้าไปสอบถามแต่เณรพูดคุยไม่รู้เรื่องและไม่มีเอกสารแสดงตัวจึงกลัวว่าจะเป็นพระปลอมจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาควบคุมตัวเอาไว้ก่อน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเณรมาที่โรงพักและสอบถามข้อมูลต่างๆ และได้โทรมาหาตนและทราบว่าเณรเป็นพระจริงๆ ไม่ใช่พระปลอม แต่พอพามานั่งรอที่โรงพักแล้วเณรก็เดินไปทั่วโรงพัก และมีกริยาอาจจะไม่งามทั้งๆที่ใส่จีวรอยู่ จึงได้ขออนุญาตกับอาตมาเพื่อขอให้เปลี่ยนเอาจีวรออกก่อน อาตมาจึงอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นชุดลำลองปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น.อาตมาและผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางมาถึงโรงพักบางบัวทองก็ไม่พบตัวเณรแล้ว พบเพียงแค่สายประคตคาดเอว 1 เส้นของเณรถอดวางไว้และมีกระดาษโน๊ต1แผ่น ซึ่งอาตมามั่นใจว่าเป็นลายมือของเณรแน่นอน ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหนพอโทรไปก็ติดนะแต่เขาไม่รับ โทรไปอีกทีก็ปิดเครื่อง ตอนนี้เป็นห่วงไม่รู้ว่าเขาไปไหน เพราะเขาพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่องและเขียนภาษาไทยยังไม่ค่อยได้กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี ถ้าวันนี้ยังไม่พบก็คงต้องกลับวัดที่กาญจนบุรีก่อน และรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปอีกทีหากพบตัว
ทางด้าน นาย วิชัย ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากเจ้าอาวาสว่ามีเณรหายตัวไปจากวัดเมื่อช่วงคืนวานที่ผ่านมา จึงได้ช่วยตามหาจากข้อมูลที่พ่อกับแม่เณรบอกมา เณรเหมือนจะมีอาการป่วยทางจิต และเคยหนีออกจากวัดมาแล้วหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยไปไหนไกลมีครั้งนี้แหละครั้งแรก ไม่รู้ว่าเณรมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง แต่จากคำบอกกล่าวของผู้ที่เห็นบอกว่า เห็นเณรเดินออกจากวัดเพียงคนเดียว ต่อมาทราบว่ามีคนพบเห็นเณรอยู่ที่นนทบุรี จึงรีบเดินทางมาเพื่อที่จะรับตัวกลับวัด แต่พอมาถึงก็ไม่เจอตัวเณร สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีใครทราบเพราะหายไปตอนไหนก็ไม่มีใครรู้ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดให้อยู่ หากวันนี้ถ้าไม่พบตัวก็จะเดินทางกลับก่อนเนื่องจากตนยังมีหน้าที่ที่จะต้องทำอยู่ หากมีใครพบเห็นเณรคนนี้ขอให้ช่วยติดต่อกลับหาตนหน่อยพ่อกับแม่เป็นห่วง
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี