ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ทางวัดได้นำรถของมูลนิธิสยามนนทบุรีในโครงการบ้านหลังสุดท้ายเดินทางไปรับร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 รายด้วยกัน ซึ่งในวันนี้รถของมูลนิธิฯ ได้เดินทางไปรับศพที่ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย, รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี 1 ราย, รพ.ราชวิถี 1 ราย, รพ.สิรินธร 1 ราย,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ปทุมธานี 1 ราย,และกรณีเสียชีวิตภายในที่พักในจังหวัดนนทบุรี อีก 1 ราย, ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ยากไร้และครอบครัวยากจนไม่มีเงินจ่ายค่าทำศพและทำพิธีกรรมทางศาสนารวมไปถึงมีความลำบากในเรื่องของการเดินทางมาร่วมทำพิธีศพ ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางวัดราษฎร์ประคองธรรมได้เผาศพอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้พักเมรุตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาหวั่นเมรุชำรุดและเสียอีกหลังจากที่เมรุเผาศพเคยแตกมาแล้ว อีกทั้งตอนนี้ยังขาดแคลนน้ำมันที่ใช้เผาศพและผ้าห่อศพ.
นาย ไพรัช สุดธูป หรือพี่แป๊ะ ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดได้ทำการรับศพผู้ยากไร้มาทำพิธีทางศาสนามีทั้งไปรับที่ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์, รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี, รพ.ราชวิถี, รพ.สิรินธร,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ปทุมธานีและผู้เสียชีวิตภายในที่พักอาศัย จ.นนทบุรี รวมทั้งหมด 7 ราย วันนี้ได้ตั้งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายไว้บนศาลาและอีก1 ราย เสียชีวิตมาแล้ว 3 วันไม่สามารถนำศพขึ้นมาไว้บนศาลาได้จึงได้ตั้งศพไว้บริเวณเตาเผาด้านล่าง โดยทั้งหมดนี้มีปัญหาติดขัดในเรื่องของการทำพิธีทางศาสนาซึ่งตนได้อธิบายให้ทุกคนที่มาในวันนี้ได้เข้าใจ ทุกคนมีความทุกข์ยากอยู่แล้ว และทุกคนมารวมกันที่นี้เพื่อผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปด้วยกัน ซึ่งศพที่ทางวัดไปรับที่ประจวบคีรีขันธ์ก็ค่อนข้างน่าตกใจเพราะว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน แต่ทางคู่กรณีก็ไม่มีเงินที่จะช่วยเหลือในการทำศพเช่นกัน คือทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ไม่มีเงิน คู่กรณีก็ไม่มีเงินก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยประสานทางวัดเพื่อขอความช่วยเหลือมา
นาย ไพรัช กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ทางวัดรับศพมาทำพิธีตามศาสนาวันละ 5-6 ราย และเผาต่อเนื่องทุกวันโดยแทบจะไม่ได้พักเมรุเลย อย่างเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทางวัดเผาศพไปแล้ว 70 ศพ และเดือน มิ.ย.นี้ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงตอนนี้เผาไปแล้ว 50 ศพ โครงการบ้านหลังสุดท้ายที่ทางวัดราษฎร์ประคองดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ก็ยังจะทำต่อไปเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน แต่ก็มีอุปสรรคในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาศพ ซึ่งในการเผาแต่ละครั้งต้องใช้น้ำมัน 60-70 ลิตร อย่างเมื่อวานซื้อน้ำมันมา 600 ลิตร ก็คิดว่าจะใช้ได้ประมาณ 10 ศพ แต่วันนี้ก็น่าจะหมดแล้วเพราะมีศพรอเผาอยู่บนศาลาอีก 7 ศพ และในวันพรุ่งนี้ก็ยังมีศพที่ทางวัดจะต้องเดินทางไปรับอีก ในเรื่องของโลงศพและผ้าห่อศพตอนนี้ก็ค่อนข้างขาดแคลนเรียกได้ว่าตอนนี้มีพอใช้ เพราะไม่เคยมีเก็บสำรองไว้ ส่วนเมรุเผาศพก็ค่อนข้างกังวลเพราะมีการเผาต่อเนื่องแบบนี้ทุกวัน วันละ 6-7 ศพ ทำให้ไม่มีเวลาได้พักเมรุกลัวว่าเมรุจะเสียหายหรือแตกเหมือนเมื่อก่อนอีก
ด้าน นาง สุนีย์ อายุ 60 ปี เล่าว่า ตนได้ติดต่อมาที่วัดเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องของการนำศพมาทำพิธีทางศาสนาซึ่งศพดังกล่าวตนไม่รู้จีกเป็นการส่วนตัวและไม่ใช่ญาติกัน แต่ลูกชายเคยทำงานด้วยกันมาก่อนที่ลูกชายตนจะออกจากงาน พอมารู้ว่าเขาเสียชีวิตและเขาไม่มีญาติตนจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้าไม่มีญาติมารับศพทางโรงพยาบาลจะนำศพส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อฝังเป็นศพไร้ญาติ ตนรู้สึกสงสารจึงโทรมาที่วัดเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่วัดดำเนินการให้และนำร่างมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดตนก็รู้สึกดีใจที่ยังมีโครงการดีๆแบบนี้อยู่ ซึ่งเมื่อก่อนตนไม่คิดว่าจะมีวัดที่รับทำพิธีทางศาสนาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จนกระทั่งมาเจอที่นี้ ก่อนหน้านี้ตนเคยช่วยบริจาคเงินให้ทางวัดตามกำลังเพราะคิดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจนกระทั่งมาพบกับตัวเอง ในวันนี้ตนเดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อมาส่งศพผู้เสียชีวตเพราะเขาไม่มีญาติมาร่วมทำพิธีเลย.
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี