พระบรรจง จันทร์นุ่มอายุ 76 ปี พระลูกวัดแก้วฟ้าจุฬามณี ย่านเกียกกาย กรุงเทพฯ หอบสังขารถือไม้เท้ายักแย่ยักยัน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ช่วยติดตามรถเข็นที่ใส่กระเป๋าสัมภาระ ของตนเองระหว่างขึ้นจากเรือด่วนบริเวณโป๊ะท่าเทียบเรือหอนาฬิกา ท่าน้ำนนทบุรี หันกลับมาอีกทีกระเป๋าดังกล่าว อันตรธานสูญหายไปแล้วไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร หลวงตาบรรจง เล่าว่า อาตมานั่งเรือจาก ท่าเรือเกียกกายมาขึ้นท่าน้ำนนทบุรี โดยมีรถเข็นสัมภาระภายในบรรจุย่าม สบง จีวรของพระ โดยอาตมาจะเดินทางไปหาลูกชายที่สนามบินน้ำ ซอยนนทบุรี 42 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี พอหันกลับมาอีกทีพบว่ารถเข็นใส่สัมภาระหายไปแล้วจึง หอบสังขารเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตาม รถเข็นคันดังกล่าวให้ด้วย
ระหว่างรอบันทึกถ้อยคำให้ปากคำอยู่นั้น ทางหลวงตาได้พูดขอให้ตำรวจช่วยเปิดกล้องวงจรปิดให้ดูหน่อยว่าใครหยิบไป เพราะนอกจากกระเป๋าสัมภาระแล้วภายในยังมีเงินสดอีกเกือบ 2,000 บาท เกรงว่าจะถูกมิจฉาชีพเข็นรถคันดังกล่าวของอาตมาไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามชี้แจงว่า ต้องมีการแจ้งความก่อนถึงจะเอาใบบันทึกประจำวันไปขอดูกล้องวงจรปิดได้ที่เทศบาลนครนนทบุรี สุดท้ายทางผู้สื่อข่าวที่ประจำอยู่บนโรงพัก พร้อมด้วยชุดสืบสวน จึงได้พยายามอธิบายให้หลวงตาฟังว่า กระเป๋าอาจจะอยู่แถวโป๊ะท่าเรือหรือเปล่า ทางหลวงตาก็ยืนยันว่าอาตมาเดินหาจนทั่วแล้วยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ทางนักข่าวและชุดสืบสวนจึงพยายามพูดจาขอร้องหลวงตาซึ่งสังขารไม่ค่อยแข็งแรงเดินกลับไปจุดที่ขึ้นเรืออีกครั้ง โดยมีผู้สื่อข่าว พยายามประคองหลวงตาไป และก็พบว่ารถเข็นสัมภาระของหลวงตาที่มีย่ามกระเป๋าใส่สิ่งของและเงินสดรวมทั้งไม้เท้าสำรองอีกอัน ยังอยู่ครบ มีพลเมืองดีนำมาซุกไว้ที่เสาขนาดใหญ่ของท่าเทียบเรือ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้นำรถดังกล่าวส่งคืนให้กับหลวงตา พร้อมเรียกรถแท็กซี่พาหลวงตาไปส่งยังจุดหมายปลายทาง โดยผู้สื่อข่าวเองได้เป็นภาระจ่ายค่าโดยสารแท็กซี่ให้หลวงตาในครั้งนี้อีกด้วย
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี
