Statistiche web

นนทบุรี   หมู่บ้านทาวน์เฮาส์เพื่อนบ้านวางกระถางต้นไม้ของเก่าตู้เหล็กล้นหน้าบ้าน

4 กรกฎาคม 2024 | อาสาไทยยืนยัน

หมู่บ้านพฤกษาริมคลอง 1 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี   หลังจาก  น.ส.ลัดดา ตวงวิเศษกุล หรือคุณเล็ก อายุ 50 ปี มาร้องขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพราะเธอประสบปัญหาเพื่อนบ้านมหาภัย ที่เอาของมาวางของเต็มหน้าบ้านของตน จนตนไม่สามารถที่จะเข้าออกจากบ้านได้ ตนเองอยู่บ้านหลังนี้มานานกว่า 10 ปี ตอนแรกก็ยังไม่มีปัญหาอะไร เริ่มมามีปัญหากับเพื่อนบ้านซึ่งบ้านอยู่ติดกันช่วงก่อนโควิดระบาด เนื่องจากเพื่อนบ้านทำอาชีพขายของเก่า และมีการประกาศขายในอินเทอร์ทั้งตู้ กลองชุด และอื่นๆ จึงใช้พื้นที่หน้าบ้านของตัวเองเป็นจุดถ่ายรูป แล้วนำของมากองไว้บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง จนทำให้ประตูของตัวเองมีรอยแตก มีคราบน้ำมันน้ำมันงรถของคู่กรณีเปื้อนเต็มถนน

ปกติตัวเองกับเพื่อนบ้านไม่ได้มีปากเสียงอะไรกัน ตัวเองจะมาบ้านหลังนี้ในช่วงวันวันเสาร์-อาทิตย์  ช่วงที่ตัวเองไม่อยู่บ้าน เพื่อนบ้านจึงใช้พื้นที่หน้าบ้านทำกิจกิจกรรมต่างๆ เยอะแยะไปหมด ปัจจุบันของทั้งหมดที่วางไว้ตัวเองได้มีการคุยกับเพื่อนบ้านหลายรอบ ให้ช่วยเคลียร์ปัญหา แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ซึ่งเพื่อนบ้านอ้างสาเหตุที่ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจาก มีปัญหาเรื่องสุขภาพ รวมทั้งสามีกับลูกเขยไม่ว่างที่จะช่วยเหลือ กระทั่งช่วงปลายปีที่แล้วตัวเองเริ่มทนไม่ไหว เพราะไม่สามารถเอารถเข้าบ้านได้ จึงพยายามขอคุยกับเพื่อนบ้าน ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่าจะเคลียร์ให้ แต่ก็ไม่เคยให้สักที

ล่าสุดเพื่อนบ้านท้าทายว่า จะไปร้องเรียนที่ไหนก็ร้องไปเลย ตัวเองจึงตัดสินใจไปร้องเทศบาลบางคูรัด ซึ่งก็มี เจ้าหน้าที่ลงมาเจรจาไกล่เกลี่ยนขอให้คู่กรณี เก็บข้าวของออกแต่ก็เก็บได้เพียงบางส่วนซึ่งตนเองร้องแบบนี้ 2 ครั้ง และแจ้งความไว้ที่สภ.บางบัวทอง  4 ครั้ง จนถึงตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้วก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหากับเพื่อนบ้านหลังนี้ได้  เนื่องจากทางเทศบาลบางคูรัดอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล

นอกจากนี้ตนยังเคยร้องเรียนผ่าน LINE กลุ่มของนิติบุคคล แต่พอส่งข้อความเข้าไปเพื่อนบ้านหัวเราะเยาะเย้ย และมีท่าทีจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตัวเอง รวมทั้งมาทำให้รถของตัวเองมีรอยถลอกด้วย ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปพักที่บ้านหลังนั้นอีกเลยซึ่งตนอยากบอกคู่กรณีคือ ตัวเองกับคู่กรณีอยู่ด้วยกันมานาน เคยคุยด้วยหลายรอบ ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต ที่เขาอ้างว่าตัวเองเป็นเด็กช่างฟ้อง จริงๆมันไม่ใช่ เพราะที่ตรงนั้นควรรู้ว่าเป็นสิทธิของใครและควรรู้ว่าสิทธิ์ของตัวเองอยู่ตรงไหน ตัวเองพูดจนไม่อยากจะพูดแล้ว อยากฝากสื่อมวลชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพจสายต้องรอด ให้ช่วยติดตามขอคืนพื้นที่ของตัวเองทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบ นาย เอก อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นบ้านคู่กรณีกล่าวว่าตนมีอาชีพขายของเก่าส่วนของที่วางเอาไว้ที่หน้าบ้านตนได้สั่งเอามาใช้ซึ่งตอนนี้ตนจัดข้าวของในบ้านอยู่ต้องเอาตู้เหล็กเข้าบ้านก็ไม่ได้คิดว่าจะเอามาวางเอาไว้แบบนี้และสิ่งของต่างๆก็ไม่ได้เน่าเหม็นที่ผ่านมาก็มีปัญหากันกับเพื่อนบ้านและสิ่งของต่างๆก็เก็บหมดแล้วส่วนตู้เหล็กพึ่งสั่งมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ได้และที่ผ่านมาเพื้อนบ้านของตนไปร้องเรียนมาแล้วหลายหน่วยงานและทางเจ้าหน้าที่เทศบาลบางคูรัดก็เข้ามาดูแล้วและเพื่อนบ้านของตนก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านซึ่งตนคิดว่าบ้านของตนเป็นบ้านหลังสุดท้ายซึ่งตนคิดว่าใช้พื้นที่หน้าบ้านได้แต่ก็ไม่ได้เกะกะอะไรมากมาย

ภรรยานายเอก กล่าวว่ากล่าวว่า เมื่อก่อนตรงหน้าบ้านตนจะโล่ง จะไม่มีโต๊ะหรือต้นไม้ แต่เพราะตนเห็นว่าเค้าอยากจะมีความส่วนตัวตนจึงเอาต้นไม้มาวางและทำทางออกอีกทาง แต่กับกล่ายเป็นว่าหน้าบ้านเป็นของเขาทั้งหมด ตนรู้สึกว่า มันบันทอนชีวิตตัวเอง อยู่ไม่เป็นสุข จะมาอะไรมากกับเรื่องพวกนี้ มันก็ต้องถ่อยทีถ่อยอาศัยเพราะมันอยู่ร่วมกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดี๋ยวหรืออะไรหน้าจะใจกว้าง ยอมรับตรงนี้ด้วย ที่อยู่ด้วยกันทั้งๆที่เพื่อนบ้านก็เดือดร้อนกันเรื่องให้ตัดต้นไม้ เพราะบังหน้าต่าง ทั้งๆที่เป็นธรรมชาติ อย่างตัวเขาเอง ตอนนั้นตนทำสวนหย่อม มีชิงช้าแต่ตอนนี้ให้กำนันไปแล้ว มันจะได้มองเห็นอะไรสีเขียวๆบ้าง เขาก็บอกว่าไม่ชอบเขาอยากเห็นกำแพง ตนก็ไม่เข้าใจ เรื่องของเรื่องที่มาแค่ยอกว่าให้ถอยรถ จยย. แต่เขากดสติกเกอร์ชี้หัวเราะ เราไม่ได้อะไรเขานะ แต่กับเป็นเหตุ”หัวเราะทำเหี้ยอะไร” “ไอ่หน้าตัวเมีย” ทั้งๆที่คำพวกนี้ตนสามารถแจ้งความได้ ตนก็ให้แฟนตนเข้าบ้าน เดี๋ยวตนจัดการเอง แต่เขาก็ไม่สมควรพูดคำพวกนี้ เพราะตนก็ไม่เคยพูดคำพวกนี้เลย ตนได้แต่บอกว่าคุณทำตัวด่อยค่า เมื่อก่อนคุณก็ไม่ได้เป็นแบบนี้

นายไพโรจน์  คุ้มเกิด อายุ75 ปี จิตอาสาช่วยดูแลหมู่บ้านกล่าว่าในเมื่อก่อนบ้านทั้งสองหลังก็เป็นเพื่อนบ้ากันดีซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขามีปัญหากันตั้งแต่ตอนไหนซึ่งทางเจ้าของบ้านเลขที่ 48/50 ได้โทรหาตนหลายครั้งว่าเพื่อนบ้านบ้านเลขที่48/51 นำสิ่งของมาวางที่หน้าบ้านของตนและได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานและที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาเครียปัญหาให้แล้วเพราะเขามีอาชีพขายของเก่าบางครั้งตนก็ช่วยขนของที่ไม่ใช้เอาออกไปทิ้งให้เพราะเขาก็ไม่ค่อยสบายและของที่เห็นวางเอาไว้แบบนี้เดี๋ยวก็ขนเข้าไปในบ้านซึ่งตนก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันเพราะหลายหน่วยงานก็ได้เข้ามาดูพื้นที่แล้ว

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี

Share This