Statistiche web
แม่ฮ่องสอน ล่องห่วงยางปาย พบเบื้องลึกขัดผลประโยชน์กันของผู้ประกอบการ

นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งขณะนี้ติดราชการอยู่ที่ กทม. กล่าวภายหลังเกิดกรณีปรากฏข่าวบนสื่อออนไลน์ ว่า “มีชาวต่างชาติเล่นห่วงยางเสพของมึนเมา ตกดึกกลัดมันเลยจ้ำจี้ในรีสอร์ท” โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน  มีความห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจังหวัดจะมีมาตรการเร่งจัดระเบียบและมาตรการท่องเที่ยว ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังพบนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีพฤติกรรมการท่องเที่ยวไม่เหมาะสม โดยวันที่ 16 กรกฏาคม 2567 ได้มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อม ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อร่วมประชุมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดระเบียบและกำหนดมาตรการท่องเที่ยวในอำเภอปาย อีกครั้ง

ในเบื้องต้น นายอเนก ปันทะยม นายอำเภอปาย ได้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า   เหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เสียหายได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรปาย หลังพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไปมีเพศสัมพันธ์ในรีสอร์ท โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเวลาที่เกิดเหตุตามบันทึกประจำวันปรากฏเวลา 21.26 น. เป็นเวลาที่เสร็จสิ้นจากกิจกรรมล่องห่วงยางนานแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนั้นทางอำเภอปายได้ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรปาย สถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ได้มีการเชิญผู้ประกอบการมาหารือและกำหนดมาตรการร่วมกันก่อนมีกิจกรรมล่องห่วงยางเป็นประจำทุกปี อาทิ ห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอร์ฮอร์ทุกชนิดลงในกิจกรรมล่องห่วงยาง (Tubing) โดยจะมี Staff คอยตรวจตราทุกครั้ง ให้ Staff ทุกคนสวมเสื้อชูชีพทุกคน และหลังเลิกทำกิจกรรมทุกครั้งให้ทีมงาน Staff คอยตรวจเช็ค จัดเตรียมชุดรักษาพยาบาลในกรณีที่นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และนำสัมภาระของนักท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้สวมใส่อันเป็นชุดสุภาพ และนำนักท่องเที่ยวไปส่งยังโรงแรมที่พักโดยปลอดภัย รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวในการเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่นและการแต่งกายที่เหมาะสม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติเป็นอย่างดี มีเพียงส่วนน้อยที่อาจจะฝ่าฝืนแนวทางปฏิบัติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้กำชับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด

สำหรับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในแต่ละปีจำนวนมาก ตั้งแต่ ม.ค. – ก.ค. 2567 มีนักท่องเที่ยวในพื้นที่ สะสมจำนวน 30,000 – 40,000 คน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กับประชาชนและชุมชน ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างพูดคุยและบอกต่อๆ กันมาว่าเป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้น และสามารถชมธรรมชาติที่ยังสวยงามทั้งสองฝั่งของแม่น้ำปาย คือกิจกรรมล่องห่วงยาง (Tubing) ในพื้นที่อำเภอปายจะมีผู้ประกอบการล่องห่วงยาง (Tubing) อยู่ 2 แห่ง โดยจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมทั้งตลอดเส้นทางทั้งการล่องห่วงยาง กิจกรรมสันทนาการต่างๆ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 19.00 น. ของทุกวันอังคารและวันศุกร์ โดยมีรถบริการรับ – ส่ง จากโรงแรมที่พัก – จุดล่องห่วงยาง และกลับจากจุดขึ้นล่องห่วงยาง – โรงแรมที่พัก

ส่วนข้อมูลในเชิงลึกของข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ประกอบการเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ยอมเปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งของผู้ประกอบการในพื้นที่นั้นเกิดขึ้นมานานแล้วและเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพบว่าผู้ประกอบการกิจกรรมล่องห่วงยางทั้ง 2 ราย ได้จัดกิจกรรมให้แก่นักท่องเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ตั้งแต่รับนักท่องเที่ยวที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก่อนเดินทางเข้าไปยังพื้นที่อำเภอปาย ด้วยการเข้าพักในที่พักที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 รายเตรียมไว้ให้หมดแล้วเช่นกัน จากนั้นก็นำนักท่องเที่ยวไปล่องห่วงยางที่แม่น้ำปาย ด้วยการเสริมกิจกรรมของจุดแวะพักหลายจุดตลอดเส้นทาง ที่จะต้องเตรียมเครื่องดื่มนานาชนิดไว้คอยบริการด้วย หลังเสร็จกิจจกรรมล่องห่วงยางก็นำนักท่องเที่ยวกลับเข้าที่พักเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการบริการแบบเบ็ดเสร็จที่วางไว้ วันรุ่งขึ้นก็นำนักท่องเที่ยวส่งกลับได้เลย ซึ่งก็กลายเป็นจุดขัดแย้ง เนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการมีเพียงไม่กี่กลุ่มที่ได้ผลประโยชน์ในแต่ละเที่ยวของการล่องแพ อาทิ รถกระบะขนนักท่องเที่ยวหรือบรรดาสต๊าฟที่ร่วมดำเนินการเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการที่พัก ร้านค้า ร้านอาหารหรือแม้แต่บรรยากาศที่ถนนคนเดินเมืองปายก็ไม่ได้ประโยชน์จากกิจกรรเหล่านี้เลย จึงมีคำถามมาตลอดว่ากิจกรรมล่องห่วงยางที่มีหลายหน่วยงานพากันเข้าไปประโคมข่าวนี้ ใครได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีปัญหาของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ล่องห่วงยาง ที่ต้องขึ้นรถกระบะไปยังจุดปล่อยต้นน้ำนั้น แต่งกายในลักษณะล่อแหลม ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น กลายเป็นภาพลักษณ์ไม่ดีกับวัฒนธรรมของเมืองปายด้วย

ภาพ-ข่าว วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน

Share This