ร้อยตำรวจเอกชัยยงค์ อ้วนมะโฮง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ พบว่า มีลุงสวมใส่ชุดโชเฟอร์รถแท็กซี่ นั่งหน้าเศร้ามีท่าทีลุกลี้ลุกลน เหมือนกำลังมองหาใครอยู่สักคน โดยลุงคนดังกล่าว นั่งอยู่นานนับครึ่งชั่วโมง จึงได้เดินเข้าไป สอบถามถึงสาเหตุที่ต้องนั่ง รอเป็นเวลานาน จึงทราบชื่อ ลุงคนดังกล่าวว่าชื่อ ลุงชูวิทย์ คิดเพิ่ม อายุ 67 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองขับรถแท๊กซี่ ได้รับผู้โดยสารเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี จากย่านซอยวัดลาดปลาดุก อำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี ให้มาส่งยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี โดยระหว่างทาง ก็ได้มีการพูดคุยกันตามปกติ ทราบว่าชายคนดังกล่าวจะไปทำเรื่องเพื่อประกันญาติ ที่สภ.เมืองนนทบุรีแห่งนี้
แต่เมื่อตนเองขับรถมาถึงแล้ว ชายผู้โดยสารจึงได้บอกกับตนเองว่าให้รออยู่ก่อน เดี๋ยวเสร็จเรื่องและธุระจะออกมาจ่ายค่าโดยสารซึ่งขณะนั้นมิเตอร์ที่ขึ้น เป็นเงิน 199 บาท ตนจึงขึ้นไปนั่งรอบนโรงพักเพื่อรอชายผู้โดยสาร ที่ว่าจ้างมา แต่ปรากฏว่า นั่งรอนานนับครึ่งชั่วโมงก็ไม่ปรากฏวี่แวว ของชายผู้โดยสารคนดังกล่าวแม้แต่น้อย ซึ่งตนเองก็พยายามที่มองหาและเดินดูรอบๆก็ไม่ปรากฏว่าผู้โดยสารคนที่ว่าจ้างมาอยู่บนโรงพักจึงได้มานั่งรอด้วยใจที่กระวนกระวาย โดยหวังว่า จะได้เจอและได้ค่าโดยสาร จากมิเตอร์เงินจำนวนดังกล่าว ที่ขับมาส่ง บนโรงพักแห่งนี้
แต่ตนรอแล้วรอเล่าจนไม่มีผู้มาติดต่อราชการบนโรงพัก เหลือเพียงตนนั่งรออยู่คนเดียว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่าตนนั่งรออยู่เป็นเวลานาน จึงได้เข้ามา สอบถามเมื่อทราบเรื่องราว ที่เกิดขึ้นจึง ช่วยกัน ตรวจสอบและเดิน หาตามห้อง ทั้งของร้อยเวร สอบสวนห้องจราจร ก็ไม่พบ สุดท้ายชายที่ว่าจ้างรถแท็กซี่ของลุงชูวิทย์นั้นที่แท้แล้ว ไปนั่งทำเรื่องการประกันตัวให้กับญาติอยู่ในห้อง ทำการฝ่ายสืบสวนที่อยู่ด้านหลังของโรงพักแห่งนี้
เมื่อทราบเรื่องราวดังกล่าว ทางร้อยตำรวจเอกชัยยงค์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้สอบถาม ผู้โดยสารชาย ทราบชื่อต่อมา นายพงษ์ศักดิ์ อั่มศรี อายุ 41 ปีว่า ได้มีการว่าจ้างรถแท็กซี่ของคุณลุงชูวิทย์มาหรือไม่ ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์ ก็รับว่าใช่ และถามว่า มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่า คุณลุงชูวิทย์ โชเฟอร์รถแท็กซี่ รออยู่เป็นเวลานาน นับครึ่งชั่วโมง จึงเข้าใจผิดคิดว่า นายพงษ์ศักดิ์ ออกไปจากโรงพักแล้ว โดยยังไม่ได้จ่ายค่าโดยสาร เมื่อทราบดังนั้น นายพงษ์ศักดิ์ จึงรีบวิ่งจากห้องสืบสวน ออกไปพบกับคุณลุงชูวิทย์ พร้อมทั้งแจ้งเรื่องราว และชี้แจง ให้ลุงชูวิทย์ทราบว่า ตนเองกำลังทำเรื่องอยู่ไม่ได้หนีไปไหน อีกทั้งวันนี้ทั้งวัน จะขอใช้บริการ ลุงชูวิทย์ไปต่อ พร้อมทั้งจะให้ ค่าเสียเวลาที่คุณลุงต้องรอนาน งานนี้ทั้งตำรวจ ทั้งนักข่าว ทั้งคุณลุงชูวิทย์ และนายพงษ์ศักดิ์ ผู้โดยสารต่างพากันยิ้มชื่นมื่น
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ อั่มศรี ก็ได้กล่าวว่า ตนเองว่าจ้างคุณลุงมา แล้วก็มีการพูดคุยกัน บอกให้รออยู่ เสร็จธุระเดี๋ยวจะออกมา ปรากฏว่า ใช้เวลานานไปหน่อย ทำให้คุณลุงชูวิทย์ คงคิดว่าตนหนีไปแล้ว ไม่จ่ายค่าโดยสาร แต่ก็เข้าใจว่า เรื่องแบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่ เพราะว่าคนเราเดี๋ยวนี้ “รู้ หน้า ไม่รู้ใจ” นี่ก็เสร็จธุระเรียบร้อยแล้วจะขอให้ลุงไปส่งต่อจุดหมายหน้าที่มีนบุรี ก็จะจ่ายค่าเสียเวลารอและค่าโดยสารตามมิเตอร์ที่นั่งมา นายพงษ์ศักดิ์เมื่อกล่าวจบจึงได้ขึ้นรถแท๊กซี่ลุงชูวิทย์กลับออกไปพร้อมทั้งรอยยิ้มของทุกคนบนโรงพัก
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี
