ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นาย ชลธาร บุญชูช่วย อายุ 28 ปี (ตัวแทนบริษัท) เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จากกรณีเมื่อเวลา 00.45 น.ของวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายเป็นผู้ชายจำนวน 1 คน เข้าไปขโมยสายไฟเบอร์ 120 ที่ใช้สำหรับติดตั้งตู้ชาร์จไฟสำหรับรถEV ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นผู้ชาย 1 คน ไม่ทราบชื่อสวมเสื้อสีน้ำเงิน อายุประมาณ 30-40 ปี ขี่รถจยย.ไม่ทราบทะเบียน มาจอดบริเวณใกล้กับห้องน้ำก่อนจะทำทีเดินผ่านห้องน้ำเพื่อหลบมุมกล้องอ้อมไปที่ด้านหลังและไปโผล่อีกด้านซึ่งเป็นที่ตั้งตู้ชาร์จไฟรถEV ใช้เครื่องมือตัดสายไฟซึ่งเป็นสายไฟขนาดใหญ่ และเอาขึ้นรถจยย.ขับออกไปรอบนึงก่อนจะกลับเข้ามาขโมยอีกรอบ ทำให้ได้รับความเสียหายมูลค่าประมาณ 300,000 กว่าบาท
นาย ชลธาร เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากทางพนักงานของปั้มน้ำมันว่า เมื่อคืนวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา สายไฟของตู้ชาร์จรถไฟฟ้าถูกขโมยไปเมื่อคืน ซึ่งตู้ไฟฟ้าดังกล่าวยังอยู่ในช่วงติดตั้งและยังไม่เปิดให้บริการ โดยทางบริษัทได้ทำการติดตั้งตู้ชาร์จรถไฟฟ้าที่ปั้มดังกล่าวจำนวน 1 ตู้ และอยู่ในขั้นตอนของการติดตั้งและเดินสายไฟ คาดว่สคนร้ายอาจจะมีความชำนาญหรือเป็นช่างไฟ จึงรู้ว่ายังไม่มีไฟและใช้เครื่องมือตัดและขโมยไป โดยสายไฟดังกล่าวเป็นสายไฟเบอร์ 120 ซึ่งถือว่าเป็นสายไฟขนาดใหญ่ จากที่ดูคลิปจากกล้องวงจรปิด คนร้ายขี่รถจยย.เข้ามาคนเดียว น่าจะมีความรู้และชำนาญ คิดว่าเขาคงเตรียมคีมตัดขนาดใหญ่มาด้วย เพราะหากใช้เลื่อยมาเลื่อยสายไฟขนาดนี้คงใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่คนร้ายกลับใช้เวลาไม่นานในการตัดสายไฟจำนวน 4 เส้น แถมยังสามารถดึงออกไปได้ด้วยตัวคนเดียว ขนาดช่างที่ทำการติดตั้งยังต่องใช้คน3-4คนในการดึงสายไฟแต่ละเส้น หลังตัดสายไฟเสร็จคนร้ายขนสายไฟขึ้นรถจยย.ออกไปแล้วรอบนึง และขี่รถกลับเข้ามาขนสายไฟที่เหลือออกไปอีกครั้ง หากคนร้ายนำทองแดงที่อยู่ในสายไฟไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าก็คงขายได้ กิโลละ 300-400 บาท แต่ความเสียหายที่บริษัทจนได้ประมาณ 300,000 กว่าบาท ยังไม่รวมไปถึงอุปกรณ์อย่างอื่นอีก เพราะถึงแม้ว่าจะจับตัวคนร้ายและนำสายไฟกลับมาคืนก็ไม่สามารถนำสายไฟที่ขโมยไปมาใช้ได้อีกแล้ว เนื่องจากสายไฟมีขนาดใหญ่หากถูกตัดไปแล้วไม่สามารถนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อใช้งานได้อีกจะต้องใช้สายไฟเส้นใหม่เท่านั้น
นาย ชลธาร เล่าอีกว่า หลังจากตนทราบเรื่องก็ได้ไปดูที่เกิดเหตุ และได้ไปตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด ตอนแรกก็ยังเห็นว่ามีสายไฟที่คนร้ายเอาไปไม่หมดวางคดเป็นม้วนๆอยู่ๆ ซึ่งตนก็ได้เก็บมาบ้างส่วน และได้วางสายไฟบางส่วนทิ้งไว้เพราะคิดว่าเดียวคนร้ายจะต้องกลับมาเอาสายไฟที่เหลือแน่ๆ และได้ประสานกับทางปั้มน้ำมันให้ช่วยหันกล้องไปมุมที่วางสายไฟเอาไว้ ทั้งนี้ทางบริษัทได้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายจำนวน 10,000 บาท สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยสามารถแจ้งไปได้ที่ สภ.บางบัวทองหรือโทรหาตนได้ หลังเกิดเหตุตนได้สอบถามกับทางร้านค้าต่างๆพบว่ามีการลักขโมยหรือเกิดเหตุในลักษณะนี้บ่อยมากในพื้นที่นี้.
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี