ตำบลพรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อติดตามกรณีที่มีหนุ่มพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะยาวใหญ่ ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ แล้วเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ใช้ปืน M16 ยิงข่มขู่ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน โดยเพื่อนเป็นคนขับ พอขี่รถมาถึงทางโค้ง คู่กรณีขับสวนมาและกินเลนมาฝั่งตน ตนถึงอุทานเป็นคำหยาบในภาษาใต้ แต่เป็นเพียงการสบถคำเพราะตกใจเท่านั้น พร้อมกล่าวตักเตือนคู่กรณี เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก และขับรถกลับหอพัก และไม่คิดว่ามีอะไร แต่เด็กคู่กรณีได้ไปเรียกแจ็คที่เป็นพ่อซึ่งอยู่บริเวณนั้นพอดี ซึ่งนายแจ็คก็ได้เดินทางมาพร้อมนายโอ๋ ตามมาถึงในหอพัก จากนั้นนายโอ๋ได้สั่งให้เด็กขอโทษ เมื่อเด็กยกมือไหว้ขอโทษ ตนจึงพูดเตือนอีกครั้งว่าทีหลังขับรถให้ดีๆหน่อย ทำให้นายโอ๋และนายแจ็คคู่กรณีไม่พอใจ เพราะอาจจะคิดว่าตนไปสอนเขาที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จึงทำให้เกิดปากเสียงและชกต่อยกันขึ้น ซึ่งต่อยสู้ตนไม่ได้ และได้มีการใช้อาวุธมีดวิ่งไล่แทงไปจนถึงห้องพักพนักงานที่ตนพักอยู่ หลังจากนั้นฝ่ายคู่กรณียังกลับไปเอาปืน M16 ย้อนกลับมายิงปืนขู่ตนที่หน้าห้องพักอีก ซึ่งตนเองได้แจ้งตำรวจ สภ.เกาะยาว ตั้งแต่เกิดเหตุชกต่อยกันแล้ว ซึ่งตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ แต่ทำได้เพียงยุติความขัดแย้งเบื้องต้น และพอมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือยกมือไหว้ขอให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่าพ่อของคู่กรณีถือปืน M16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมกับแนะนำตนให้หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย ตำรวจยังแนะนำอีกว่าให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้ ตนจึงรู้สึกกลัวจึงรีบเดินทางขึ้นกรุงเทพฯเพื่อมาร้องเรียนดังกล่าว ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงครอบครัวที่เกาะยาวเพราะไม่ได้พาขึ้นมาด้วย เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับคนในครอบครัว
ด้าน พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทาง พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.พังงา ได้สั่งการให้ตนเองพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สืบสวน ภ.จว.พังงา นำกำลังลงพื้นที่เก็บหลักฐานและสอบถามพยานเพิ่มเติม และเข้าค้นในจุดที่สงสัยหลายจุด ขระนี้ได้พยานหลักฐานที่จะออกหมายจับได้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีประวัติในคดีอาชญากรรมมาก่อน เบื้องต้นนั้นคาดว่าผู้ก่อเหตุไปหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนในเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องเพจสายไหมต้องรอด เพราะตำรวจในพื้นที่ทำอะไรไม่ได้นั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดพังงาจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริงในเรื่องนี้ต่อไป
นายวิทูล บุญสพ กำนั้นตำบลพรุใน และนายภูริภัทร สงวนไถ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.พรุใน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจากการลงพื้นที่พบว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งกันจากเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่เด็กถูกตะโกนด่า และไปบอกผู้ใหญ่ให้มาเคลียร์กัน ซึ่งเคลียรืกันบานปลายจนเป็นเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ใช้คนในพื้นที่แต่มาอาศัยทำมาหากินอยู่ในเกาะยาว ซึ่งในฐานะผู้นำท้องที่ก็ยืนยันว่าพื้นที่เกาะยาวไม่มีผู้มีอิทธิพล เราอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ช่วยเหลือกันและกันและเป็นพี่น้องมุสลิมร้อยละ90 ขณะคนที่ก่อเหตุใช้อาวุธ M 16 ตนก็ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนนายแจ็คเป็นเจ้าของร้านอาหารในพื้นที่
ด้านนายอนุพงษ์ อาษาราษฎร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะยาวใหญ่ ก็ได้บอกว่า ข่าวที่ออกไปนั้นได้ส่งกระทบต่อชาวเกาะยาว ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าบนเกาะยาวมีผู้มีอิทธิพล ใช้ความรุนแรง อยากให้สื่อลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของคนจากที่อื่นมาทะเลาะขัดแย้งกันในพื้นที่ ขอยืนยันว่าในพื้นที่เกาะยาวนั้นไม่มีผู้มีอิทธิพล ในส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามจับกุมคนก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว
ภาพ-ข่าว เกศ จ.พังงา