หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วน 3 เดือนให้ทุกภาคส่วน บูรณาการในการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของรัฐบาล และภายหลังได้รับแจ้งจากประชาน ว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มานานแล้ว ที่ หมู่10 ตำบลหาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ลักษณะเปิดเป็นร้านอาหาร และรีสอร์ท พ.อ.ชูชาติ นนทบุตร ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พร้อมด้วย พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ปปส.ภาค 4 ,พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จำนวนหนึ่ง
เข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าวพบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์การเสพจำนวนมาก อยู่ในตู้ภายในบ้าน และพบอาวุธปืนพก จำนวน 1 กระบอกและเครื่องกระสุนปืน (มีใบ ป.3) เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โดยมีนายพลวัฒน์ ชัยพิพัฒน์มงคล อายุ 26 ปี รับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน และตรวจนับของกลางที่ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า (รวมชนิดใช้แล้วทิ้ง) จำนวน 161 ตัว หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า(หัวพอต) จำนวน จำนวน 646 ตัว และ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 284 ขวด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา นายพลวัฒน์ ชัยพิพัฒน์มงคล ว่า “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีทางศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 265 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
