นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (สาขาแม่ฮ่องสอน) เปิดเผยว่าจากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ว่าจะมีการลอบขนลำเลียงไม้ประดู่ออกจากพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2567 เวลา 21.40 น.จึงได้มอบหมายให้ นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายอำนวย ยอดคำ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามฯ สจป.ที่.1 สาขาแม่ฮ่องสอน สายที่ 2 นายปิยะนัฐ ปิ่นทกูล หน.หน่วยฯ มส.4 แม่ลาน้อย พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ มส.4 (แม่ลาน้อย) หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่มส.5 (แม่สะเรียง )และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา ร่วมตรวจยึดจับกุมการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้าไม้ข้ามจังหวัดโดยเฉพาะการลักลอบตัดไม้ประดู่และขนไม้ประดู่โดยใช้รถยนต์ตู้ทึบในการขนไม้ฯบริเวณป่าข้างทางไปบ้านสันติสุขเขตการปกครองบ้านห้วยกู่ป๊ะ หมู่ที่4 ตำบลแม่ลาหลวง อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุได้พบรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัยดังกล่าวคณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันสกัดและจับกุมรถยนต์คันดังกล่าวไหลตะแคง.เนื่องจากถอยหนีเจ้าหน้าที่และไหลลงข้างทางเองเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 1 ราย ชื่อนายชัยวัฒน์ ยาเลิศ พร้อมรถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผจ 6302 อุบลราชธานี ตรวจสอบโดยละเอียดปรากฏว่าในตู้ทึบเป็นไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 24 แผ่น/(สำหรับปริมาตรไม้ยังคำนวณไม่ได้เนื่องจากยังไม่สามารถนำรถยนต์ของกลางออกจากที่เกิดเหตุได้) จากนั้นได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารพยานที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.แม่ลาหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับไม้ประดู่ เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวจีน เชื่อว่าเป็นไม้มงคล ทำให้มีความต้องการและมีราคาสูง กิโลกรัมล่ะ 300 บาท ขณะที่ปมประดู่ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะพิการ จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมล่ะ 2 พันบาท ส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมส่งขายให้นายทุนชาวจีน ด้วยการปะปน อำพรางกับสินค้าหัตถกรรม ส่งออกไปยังต่างประเทศทางเรือ ซึ่งจากราคาที่สูงทำให้เกิดการลักลอบตัดโค่นไม้ประดู่ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน อย่างหนัก และคาดว่าในแต่ละวันจะมีการลักลอบนำไม้ประดู่ออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเงินล่อใจของมอดไม้และกลุ่มขบวนการค้าไม้ประดู่
ภาพ-ข่าว ทศพล ผู้สื่อข่าว จ.แม่ฮ่องสอน
