จากกรณีนายสำเริง แจ่มดี อายุ 48 ปี ได้ร้องสื่อว่าลูกชายถูกรถยนต์ชนบริเวณหน้าร้านขายรถยนต์มือสอง ก้องเจริญยนต์ถนนครอินทร์ขาออก ซึ่งเป็นช่องทางหลัก ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แล้วร้องเรียนว่า ลูกชาย ถูกรถยนต์ ชนได้รับบาดเจ็บแล้วยังมีรถยนต์อีกคันหนึ่งขับมาชนซ้ำ อีก 1 ครั้งแล้วตั้งใจเหยียบคันเร่งพุ่งชนซ้ำอีกครั้งทำให้บาดเจ็บสาหัส
ทีมข่าวเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนาย สำเริง แจ่มดี อายุ 48 ปี ซึ่งนายสำเริงก็ได้ชี้จุดเกิดเหตุให้ทีมข่าวดู บริเวณเลนกลาง ถนนนครอินทร์ขาออกโดยลูกชายอายุ 22 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟ 110 กลับจากที่ทำงานช่วงเวลาประมาณ 20:00 น โดยในวันเกิดเหตุฝนตกหนักลูกชายขับรถมาถึงจุดดังกล่าว แล้วเสียหลักชนกับรถยนต์ SUV ซึ่งเป็นผู้หญิงขับ หลังจากนั้นลูกชายก็กระเด็น ต่อมามีรถกระบะ d-max ขับมาพอดีก็ชนลูกชายอีก 1 ครั้ง พอชนลูกชายเสร็จแล้วรถกระบะคันดังกล่าว ก็ถอยหลัง เหยียบลูกชายอีก 1 ครั้ง
โดยบริเวณหน้าอกของลูกชายเป็นรอยล้อรถทับ อาการของลูกชายยังเจ็บหนัก กระดูกคอแตก ซี่โครงซี่โครงหัก 1 ซี่ กระดูกสันหลังหัก หมอบอกยังดูอาการวันต่อวัน ซึ่งตนเห็นลูกชายบาดเจ็บหนักแล้วรู้สึกปวดใจมาก ขณะให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวยังได้ทุบหน้าอกตัวเอง น้ำตาคลอเบ้า บอกว่าคนเป็นพ่อ เห็นลูกเจ็บหนักรู้สึกปวดใจมาก ที่สำคัญไม่เข้าใจทำไมคนขับรถกระบะจะต้องถอยรถมา เหยียบลูกชายซ้ำด้วย ที่รู้สึกแย่กว่าพอเดินทางมาที่สถานีตำรวจ จะแจ้งความเอาผิดกับคนขับรถกระบะ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าลูกชายเป็นฝ่ายผิด แล้วบอกว่า ลูกชายตนกระเด็นไปให้รถของคู่กรณีชนเองยิ่งทำให้รู้สึกปวดใจ
ทีมข่าวได้สอบถามตำรวจที่รับแจ้งเหตุ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรีก็ได้เปิดเผยว่าในวันที่เกิดเหตุ คุณพ่อของผู้บาดเจ็บ ตำรวจ และคู่กรณี มีการโต้เถียงกันบนโรงพักจริง แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามขั้นตอน โดยชายที่ขับรถกระบะให้การเบื้องต้นว่ามองไม่เห็น จริงๆแล้วที่เขาถอยหลัง เพราะตั้งใจจะหลบไม่ให้โดนตัวคนเจ็บไม่ได้ตั้งใจชน อย่างที่ผู้เสียหายเข้าใจ ขณะเดียวกันภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ชัดเจน ให้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวก่อน ส่วนคู่กรณีซึ่งเป็น หญิงขับรถยนต์ SUV ไม่ได้หลบหนีไปไหนอยู่ระหว่างนัดมาให้ปากคำ ส่วนชายที่ขับรถกระบะคู่กรณีอีกคันหนึ่งก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลือ แล้วจึงอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่สอบปากคำเช่นกัน กรณีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ บอกว่าใครถูกใครผิด อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนพ่อของผู้บาดเจ็บอาจจะ ตกใจและเป็นห่วงลูกชายมาก จึงใช้อารมณ์ในการพูดคุย
ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในคืนวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 20:13 น.บริเวณถนนนครอินทร์ขาออก ที่เกิดเหตุ มุมนี้จะสังเกตเห็นว่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ขับขี่กันมาเร็วขณะที่มีฝนตกหนัก และเวลา 20.13 : 34 น.จะได้ยินเสียงรถชนดังปั้ง มุมนี้จะเห็นว่ามีรถ SUV เปิดไฟฉุกเฉิน ทิ้งไว้เนื่องจาก ได้ชนกับรถจักรยานยนต์แล้ว หลังจากนั้นก็จะเห็นรถกระบะคันหนึ่ง ขับมาจากเลนขวา ขับแซงรถ SUV ไปคาดว่าเป็นจังหวะที่ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมุมนี้ก็มองไม่เห็นเหตุการณ์อีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาภาพจากกล้องหน้ารถ และกล้องวงจรปิดมุมอื่นๆ ประกอบเหตุการณ์
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี