ที่มูลนิธิรณรงค์ทวง คืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายคชภัค ทานิต อายุ 36 ปี นางสาวนิโรบล ชนะทอง อายุ 34 ปี สองสามีภรรยา นำเอกสารหลักฐาน เข้าร้องเรียนกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ ว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือติดตามกรณีลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก, คอตีบ,ไอกรน ทางครอบครัว ติดใจในการเสียชีวิต ของ “น้องใต้หล้า” ลูกชายเป็นอย่างมาก หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัด ชี้แจงข้อเท็จจริงไม่กระจ่างแจ้ง อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำคดีล่าช้า จึงต้องมาร้องมูลนิธิเพื่อขอความช่วยเหลือในครั้งนี้
นายคชภัค เผยว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม 67 คุณป้าและคุณย่า ได้พาน้องใต้หล้าลูกชายของตนเอง อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ไม่ฉีดวัคซีนประจำปีที่รพ.สต.ผาตอ จังหวัดน่าน หลังกลับมาถึงบ้าน ช่วงเวลาเที่ยง ทางครอบครัวได้ให้ทานข้าว ดื่มนม ตามปกติก่อนที่น้องจะเข้านอนผ่านไปไม่ถึง 6 ชั่วโมงจนช่วงเย็น น้องมีอาการแน่นนิ่งหลับไปเฉยๆ ตนรีบนำส่ง โรงพยาบาล แพทย์บอกว่าเสียชีวิตมาจากที่บ้านแล้ว
หลังเกิดเหตุตนและครอบครัวรู้สึกคาใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะลูกชายตนเองเป็นเด็กแข็งแรงแต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธไม่เกี่ยวกับวัคซีน อ้างว่าเด็กมีโรคหัวใจเสียชีวิตจากสภาวะหัวใจล้มเหลว ตนพยายามขอดูเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตแต่ทางสสจ.น่าน และโรงพยาบาลปฏิเสธอ้างว่าเป็นเอกสารลับไม่สามารถให้ดูได้ ตนจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวังผา เพื่อ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และก็ติดใจว่าคนที่ฉีดวัคซีนให้ลูกชายเป็นพยาบาลจริงหรือไม่จบพยาบาลหรือเปล่า ตอนนี้ทาง สสจ.น่าน เยียวยาครอบครัวกรณีที่ลูกตนเองเสียชีวิตมา 320,000 บาท ตนคิดว่าเงินจำนวนนี้ มันไม่สามารถซื้อชีวิตลูกชายตนเองที่กำลังน่ารักได้
ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้วผู้ที่เป็นพ่อแม่สามารถขอดู เอกสารหลักฐานต่างๆได้อยู่แล้ว การที่ทางโรงพยาบาลหรือ สสจ.น่าน ปฏิเสธให้ดูข้อมูลเอกสารหลักฐานนั้น ตนก็ไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไร ในวันพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ช่วยเหลือ เสาะหาความจริงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี