ผู้สื่อข่าวนนทบุรีได้รับแจ้งจาก น.ส.นภาภรณ์ เจตชาลา อายุ 24 ปี ว่าขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha Filano สีเทา หมายเลขทะเบียน 6ขพ 9457 กทม. ขับขี่เข้ามาในซอยหมู่บ้านมิตรประชา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และช่วงจังหวะที่กำลังขับขี่ ผ่านหน้าหอพักชาญรัตน์ ปรากฏว่ามีสายเคเบิ้ลยาวกว่า 100 เมตร ล่วงหลุดออกมาจากหน้าหอ ทำให้สายเคเบิ้ลเกี่ยวเข้าที่บริเวณลำคอของ น.ส.นภาภรณ์ฯ วินาทีนั้นทั้งรถทั้งคนล้มคว่ำระเนระนาด
ตัวรถจยย.พังเสียหายมีรอยถลอก และกรอบแตกทั้งคัน ส่วน น.ส.นภาภรณ์ฯ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ มีรอยแดงยาวทั้งคอ และบริเวณหัวเข่ามีรอยช้ำ และแผลถลอกที่มือและขา จึงได้ไปรักษาตัวเอ็กเซอเรย์ ที่โรงพยาบาลและต้องจ่ายค่ารักษาเอง เหตุการณ์นี้ไม่สามารถติดต่อเจ้าของสายเคเบิ้ลได้ว่าเป็นของหน่วยงานใดที่รับผิดชอบ แต่ทราบว่าสายไฟพึ่งมีการติดใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ทาง น.ส.นภาภรณ์ฯ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อจะดำเนินคดี และเรียกค่าเสียหายกับษริษัทเจ้าของสายเคเบิ้ล
น.ส.นภาภรณ์ ยังเปิดใจกับทีมข่าว ถึงวินาทีที่เกิดเหตุ เป็นเวลา 19.30 น ตนขี่รถจยย.ขับเข้ามาในซอยหมู่บ้านมิตรประชา กำลังเข้าไปหาพี่ แต่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางจู่ๆรู้สึกเจ็บที่คอมาก จากนั้นรถจยย.เสียหลักล้มอย่างแรง พอจับที่คอพบว่ามีสายเคเบิ้ลพันอยู่ และเกี่ยวลำตัวล่วงลงมาจากรถ จังหวะนั้นมีชาวบ้าน เข้ามาช่วยเหลือพาลุกขึ้น เพราะรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำกลางถนนชาวบ้านกลัวว่าจะมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ตนยังพอมีสติจึงรีบเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์และทำแผล ที่บริเวณคอและเนื้อตัวให้ จนกระทั่งกลับมาดูที่เกิดเหตุ พบว่าสายที่ร่วงหล่นลงมามีความยาว กว่า 100 เมตร โดยพลเมืองดีในพื้นที่ได้มีการนำ ถุงพลาสติกมาติดบริเวณสายเคเบิ้ลเป็นสัญลักษณ์ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายขึ้นอีก และได้เข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าของหอพัก เพื่อติดต่อไปยังบริษัทที่มาติดตั้งสายไฟฟ้า แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ แต่ทางหอพักก็รับปากว่าจะช่วยติดต่อบริษัทที่มาติดตั้งสายไฟ เพื่อเร่งแก้ไข และหาแนวทางในการชดใช้เยียวยาค่าเสียหายให้กับตน
ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจมากเพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เคยเห็นข่าวในทีวี ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ที่สำคัญสายดังกล่าวเพิ่งติดตั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา เหตุใดถึงหลุดลงมาง่ายแบบนี้ โชคดีตนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่เร็ว ไม่เช่นนั้นมีหวังคอขาด เสียชีวิตแน่นอน เรื่องนี้จึงต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามีความหละหลวมของการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงขอให้ช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตน เพราะทั้งตัวเองและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย อย่างมาก
ด้านป้าไท อายุ 58 ปี แม่ค้าขายหมูปิ้งซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนอยู่ในร้านนั่งอยู่ข้างใน แต่ได้ยินเสียงดังโครม พอลุกออกมาดูเห็นว่าเป็นน้องผู้หญิงขี่รถจยย.คว่ำ ซึ่งทีแรกตนคิดว่าเป็นรถล้มธรรมดา แต่พอเห็นสายไฟพันอยู่ที่คอของน้องและติดลากรถน้องไปด้วย จึงรีบวิ่งเข้าช่วยเหลือทันที และค่อยๆดึงสายไฟให้พยายามเข้ามาข้างถนนให้ใกล้กับร้านตนมากที่สุด และเอาถุงผูกไว้เพื่อเป็นสัญญานว่ามีสายไฟอยู่บริเวณนี้ ตนพยายามดึงให้เข้ามาข้างในเพราะกลัวว่าเวลาที่ร้านปิด บริเวณจุดเกิดเหตุจะมืด ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาในซอยนี้ จะมองไม่เห็นและได้รับอันตรายได้ และอยากให้ทุกคนขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเก็บสายไฟให้ จึงต้องปล่อยไว้แบบนี้ก่อน
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี