พระธรรมวชิรานุวัตร,ดร.เจ้าคณะภาค 14 ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี และพระมหาบุญเลิศ อินุทปญฺโญ, ศ.ดร. รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี ฝ่ายบริหาร นำผู้บริหาร คณาจารย์ นิสิตระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ไปทัศนศึกษายังจังหวัดเพชรบุรีโดยเลือกไปดูงานในพื้นที่ที่ใช้ธรรมะเป็นรากฐานในการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างศานติ 4 แห่ง ประกอบไปด้วย วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร – พระรามราชนิเวศน์ – เสถียรธรรมสถาน หุบเขาโพธิสัตว์ และชุมชนกะเหรี่ยงบ้านสองพี่น้อง ในระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗
การมาศึกษาดูงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับคณาจารย์และนักศึกษาได้เยี่ยมชมพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีความเฟื่องฟูทางศาสนาและเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญของชาติเช่นวัดและวัง อีกทั้งยังเปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับชุมชนที่นำหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ได้จริงจนเกิดวิถีชีวิตแห่งสติที่ทำให้ชุมชนนี้มีความยั่งยืนทั้งในเรื่องปัจจัย 4 ที่เป็นพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ที่สามารถพึ่งตนเองได้ให้คนอื่นเป็นไปจนถึงมีความยั่งยืนทางจิตวิญญาณที่นำไปสู่ชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขพ้นทุกข์ร่วมกัน ณ เสถียรธรรมสถานหุบเขาโพธิสัตว์ที่ก่อตั้งโดยแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต จากอรุณรุ่งจนถึงรุ่งอรุณในวิถีชีวิตแห่งสติ 2 วัน 1 คืน
โดยสร้างกระบวนการเรียนรู้มากมายที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้ในวิถีชีวิตแห่งการภาวนาอาทิการทำวัตร สวดมนต์ไปจนถึงวิถีแห่งการใช้การทำงาน เป็นฐานของการภาวนาเช่น การเก็บกุหลาบบัลเกเรีย การปลูกผักในตาราฟาร์ม การภาวนากับการทำปุ๋ย การดูสุขภาพด้วยผ้าขาวม้าบำบัด
ทั้งหมดนี้เป็นการภาวนาเพื่อสร้างสัมมาอาชีพตามแนวทางที่แม่ชีศันสนีย์ได้วางไว้ก่อนคืนลมหายใจสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วเหล่าคณาจารย์และนักศึกษายังได้ไปเยี่ยมชมพื้นที่บ้านสองพี่น้องซึ่งเป็นชุมชนกะเหรี่ยงโป และชุมชนกะเหรี่ยงจากบ้านโป่งลึกบางกลอย ที่ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสถียรธรรมสถานหุบเขาโพธิสัตว์ด้วย
อีกกิจกรรมที่สำคัญของการเดินทางในครั้งนี้คือกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม CSR โดย พระมหาบุญเลิศ อินุทปญฺโญ, ศ.ดร.รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พทธปัญญาศรีทวารวดี ฝ่ายบริหารเป็นประธานในการเปิดและมีคุณสายสัมพันธ์ ปัญญศิริ ประธานมูลนิธิเสถียรธรรมสถานเป็นผู้ต้อนรับและแนะนำเสถียรธรรมสถาน หุบเขาโพธิสัตว์ พื้นที่ที่เป็นปณิธานสุดท้ายที่แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตตั้งใจสร้างไว้ให้เป็น “มรดกกรรม มรดกธรรม มรดกโลก”
การทำกิจกรรม CSR เพื่อสังคมในครั้งนี้เป็นการสร้างความมั่งคงทางอาหารจึงมี กิจกรรมปลูกต้นเบาบับและคณะนิสิตวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี ปลูกต้นผักหวานป่า ๔๐๐ ต้นให้กับชุมชนหุบเขาโพธิสัตว์
อย่างไรก็ตาม นอกจากการสร้างความมั่นคงทางอาหารแล้วยังมีกิจกรรมที่สร้างความมั่นคงทางจิตวิญญาณจึงมีการทอดผ้าป่าเพื่อสร้าง “ตารามหาสถูป” พื้นที่สำหรับการพัฒนาโพธิจิตด้วยหัวใจโพธิสัตว์ ที่เสถียรธรรมสถานโดยจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ณ เสถียรธรรมสถานกรุงเทพ ในกาละ 71 ปีชาตกาลและ 3 ปีคืนลมหายใจสู่ธรรมชาติของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ใน การถอดผ้าป่าแล้วยังมีการยกสถูปมนตราพระอารยะตารา มหาโพธิสัตว์ สถูปผ้าที่แสดงความเป็นอนิจจังทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปภายในเวลา 1 ปี ทั้งหมดนี้เป็นดั่งสัญลักษณ์ที่มีนัยยะแสดงคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงมีพระมหาปัญญา เมตตา กรุณา ต่อทุกสรรพสิ่งดุจดั่งหัวใจของมารดาที่เมตตาต่อบุตรอย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แสดงสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงมีเหล่านี้ผ่านสัญลักษณ์ของความเป็นเพศแม่คือพระอารยะตารามหาโพธิสัตว์พระโพธิสัตว์แห่งการฉุดช่วยเพื่อเชิญชวนให้ผู้คนมาร่วมกันสร้างสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุขพ้นทุกข์ร่วมกัน
นอกจากนี้ ได้มี กิจกรรมมอบเครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องอุปโภคบริโภคให้กับ โรงเรียนบ้านสองพี่น้อง หมู่บ้านกะเหรี่ยงโป และ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งลึกหมู่บ้านปกาเกอะญอ บ้านโป่งลึก-บางกลอย และจึงเดินทางกลับ
ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์คุณภาพที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มอบให้กับนักศีกษาทั้งที่เป็นระดับบัณฑิตและมหาบัณทิตเพื่อเป็นการสร้างคุณภาพผู้เรียนให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในการใช้ชีวิตทางโลกและการนำหลักธรรมคำสอนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตได้อย่างมีคุณภาพตามปณิธานของมหาวิทยาลัยที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าให้กับสังคมโลก
