กลุ่มชาวนาที่เจอพิษของน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขังในไร่นามาแรมเดือนที่บริเวณบ้านกุงไม้สักและรอบๆ สะพานซูตองเป้ วัดภูสมณาราม ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงานให้เข้ามาให้การช่วยเหลือ เนื่องจากที่นาข้าวกว่าพันไร่ ที่กำลังงอกงามเจอน้ำหลากเข้าท่วมขังมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา โดยไม่มีท่าว่าระดับน้ำจะลดลงแต่อย่างใด ส่งผลให้ต้นข้าวที่จมน้ำมาเป็นเวลานานได้รับความเสียหาย บางรายก็ไม่สามารถทำนาต่อไปได้แล้วอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ชาวบ้านพยายามประสานผู้นำในพื้นที่ก็ไม่ได้ผล
จึงประสานไปยังหน่วยงานอื่นเข้าให้การช่วยเหลือ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย สั่งการให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ร้อย ร.1743 ฐานกุงไม้สัก ฝ่ายปกครองจากที่ว่าการอำเภอเมือง สำนักงานชลประทานแม่ฮ่องสอนและกำลังจากพระเณรจากวัดภูสมณาราม จัดกำลังพร้อมเครื่องมือ-เครื่องจักร เข้าตัดฟันต้นกอไผ่ที่ล้มปิดขวางทางน้ำออกเพื่อให้ทิศทางน้ำไหลกลับไปยังเส้นทางของน้ำแม่สะงีเดิม ส่วนเครื่องจักรของสำนักงานชลประทานแม่ฮ่องสอนก็เข้าเคลียร์ที่ฝายปางหมู เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลระบายเร็วขึ้นอีกทางหนึ่ง
ด้านคุณป้าเจ้าของที่นารายหนึ่ง (ญ) กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขังแรมเดือนในครั้งนี้ได้รับความเสียหายมาก จนข้าวไม่รู้จะพอกินหรือไม่ เพราะปีนี้หนักมากจริงๆ เพราะทุกๆ ปีมีน้ำไหลหลากมาท่วมก็จะขังอยู่แค่ 2-3 วันเท่านั้น ไม่แช่นานเป็นเดือนๆ เหมือนครั้งนี้…/
จากการดำเนินการทั้งวันของวันนี้พบว่าเส้นทางน้ำและทิศทางน้ำเริ่มไหลดีขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วกินความคาดหมาย และทางชาวบ้านบางส่วนก็ตกลงว่าจะดำเนินต่อไปอีกในวันรุ่งขึ้น เพื่อเคลียร์เศษซากหินดินและโคลนที่ทับถามนาข้าว หากไม่โชคร้ายมีฝนตกลงมาซ้ำอีกก็น่าจะกลับสู่สถานการณ์ปกติได้เร็วขึ้น
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลลย์ จ.แม่ฮ่องสอน
