นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานกระบี่และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรองรับเที่ยวบินในช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน หลังได้รับรายงานจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า กำหนดการบินประจำฤดูหนาว ปี 2567/2568 (ช่วงไฮซีซั่น) มีสายการบินขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานกระบี่ แบบเที่ยวบินประจำภายในประเทศ มากกว่า 160 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 60 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำมากกว่า 90 เที่ยวบิน/สัปดาห์
โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารในช่วงไฮซีซั่นเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568 โดยให้วางแผนรองรับการให้บริการเที่ยวบินและผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มมากขึ้น ดังนี้ 1) จัดบุคลากรอำนวยความสะดวกในจุดต่าง ๆ ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ใช้บริการ 2) ตรวจเช็กสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน 3) ประชาสัมพันธ์การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการ check-in ล่วงหน้าผ่าน Application ต่าง ๆ การใช้เอกสารยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Application Thai ID รวมถึงแนะนำวิธีการใช้ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่องด้วยตนเอง (CUPPS) 4) เพิ่มจุดเช็คอินจาก 14 จุด เป็น 16 จุดแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดความแออัดของผู้โดยสาร 5) จัดเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ 6)
นางมนพร กล่าวต่อว่า จังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย จึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของภูมิภาคอันดามัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริการที่ได้มาตรฐานสากล การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสาร การดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ ที่เน้นการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและรองรับการเติบโตของธุรกิจการการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่และจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่แล้ว ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจท้องถิ่นอีกด้วย
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีสายการบินที่ขอทำการบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ แบบเที่ยวบินประจำเส้นทางภายในประเทศ 6 สายการบิน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท ไทยไลออนแอร์ นกแอร์ และการบินไทย เที่ยวบินประจำระหว่างประเทศ 5 สายการบิน ได้แก่ Flydubai, Scoot Tigerair, และ Malindo Air ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ 2 สายการบินเดิม คือ TUI fly และ LOT Polish Airlines และสายการบินใหม่ คือ NEOS ในเส้นทางปราก – กระบี่ – ปราก ซึ่ง ทย. คาดการณ์ว่า 3 เดือนแรกของช่วงไฮซีซั่น ท่าอากาศยานกระบี่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มในเดือนตุลาคมมากกว่า 60% เดือนพฤศจิกายนเพิ่มมากกว่า 30% และเดือนธันวาคมเพิ่มมากกว่า 20% ซึ่งท่าอากาศยานกระบี่พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ท่าอากาศยานกระบี่ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 และปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1 , 2 อาคารผู้โดยสารทั้ง 3 หลังของท่าอากาศยานกระบี่จะเชื่อมต่อกัน มีพื้นที่รวม 6.8 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,500 คนต่อชั่วโมง (ชม.) หรือ 4 ล้านคนต่อปีเป็น 3,000 คนต่อ ชม. หรือ 8 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็น อาคารที่พักผู้โดยสารภายในประเทศ 1,500 คนต่อ ชม. และระหว่างประเทศ 1,500 คนต่อ ชม. สามารถจอดรถยนต์ได้ประมาณ 2,000 คัน เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร และทางขับขนานของเครื่องบิน (TAXIWAY) พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ทั้งหมดนี้พร้อมเปิดให้บริการประมาณปลายเดือนตุลาคม 2567 นี้ เพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่…
กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน