ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าจากกรณี น.ส.ยุพาวรรณ(ผู้ร้องทุกข์) ได้โพสข้อความถึงน้ำเสียที่ไหลซึมออกมาจากกำแพงโรงงานแห่งหนึ่งภายใน ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เป็นระยะเวลานานกว่า 5 เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.67 จนกระทั่งน้ำเสียไหลไปรวมกันอยู่บริเวณพื้นที่ด้านหลังบ้านทั้งหมด ส่งกลิ่นเหม็นและทำให้ยุงชุกชุมสร้างความรำคาญ ร้องไปยัง อบต.ขุนศรีหลายครั้งแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจึงต้องทำหนังสือร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.ไทรน้อย
นาย พิชิต ศรศรี นายก อบต.ขุนศรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวแล้ว และได้มอบหนังสือ”การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน”ให้กับเจ้าของบ้าน และในวันที่ 7 พ.ย.67 ได้นัดกับทางตัวแทนโรงงานเพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่วนทางด้านโรงงานนั้นพบว่าวันนี้ได้มีการคนงานนำรถแบ็คโฮเข้ามาเพื่อขุดดินและหาจุดรั่วซึมแล้ว
ด้าน นาย มงคล จันทร์แก้ว ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านตนอยู่ติดกับบ้านพี่สาว ก่อนหน้านี้เห็นทางฝั่งบ้านสาวมีน้ำเสียท่วมขังอยู่หลายเดือน ตนเห็นแล้วก็สงสารเลนให้พี่สาวทำต่อระบายน้ำมาลงที่บ่อน้ำบ้านของตน ซึ่งบ่อดังกล่าวนี้ตนได้เลียงปลาตะเพียนเอาไว้ หลังจากระบายน้ำเข้ามาปลาตะเพียนก็ตายยกบ่อ ตอนแรกตนคิดว่าอากาศมันเปลี่ยนเลยทำให้ปลาตาย เพราะทุกปีที่อากาศมันเปลี่ยนปลามันก็จะน็อคน้ำตาย ไม่ได้คิดว่าปลาตายจากน้ำเสียที่ระบายมา ต่อมาเป็ดที่เลี้ยงไว้ก็ทยอยตายยกคอกเลย ตอนแรกก็คิดว่ามันเป็นโรคตายไม่คิดว่าน้ำตรงนี้จะส่งผลกระทบขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนตนเลี้ยงเป็ดและให้เป็ดเข้ามาหากินในพื้นที่บ้านพี่สาว เมื่อก่อนตรงนี้น้ำเยอะกว่านี้อีกจนพี่สาวมาบอกว่าช่วงนี้มีน้ำเสียจากโรงงานไหลเข้ามา จึงได้สังเกตุอาการเป็ดของตนพบว่า ขามันอ่อนแรงและขี้มีสีดำ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเดือน ต.ค.และเป็ดมีขนาดตัวไม่ใหญ่มาก ตายไปประมาณเกือบ30ตัวได้
นาย มงคล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อก่อนที่ตรงนี้จะแห้งสนิทแต่ทุกวันนี้น้ำไม่เคยแห้งเลย ขนาดฝนไม่ตกมาเป็น10วันแล้วนะ เพราะน้ำมันไหลออกมาจากทางกำแพง ทางด้านพี่สาวเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เห็นมีใครเข้ามาสนใจอะไร จนกระทั่งพอเป็นข่าวออกไปก็เห็นมีเจ้าหน้าที่เข้ามา แถมมาต่อว่าพี่สาวตนด้วยว่าทำไมไม่แจ้งเขาก่อน ซึ่งทางพี่สาวเคยแจ้งไปแล้วแต่ก็ไม่เห็นเขาจะทำอะไร ซึ่งตอนนี้ตนโชคดีที่นาของตนยังมีน้ำอยู่บ้าง ก็ไม่กล้าผันน้ำในบ่อนี้เข้านาเลยเพราะกลัวผลกระทบที่จะตามมาแต่หากจะต้องผันน้ำเข้านาจริงๆ ก็คงต้องให้เปิดให้น้ำในคลองเข้ามาผสมด้วยอาจจะช่วยได้บ้าง
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงโต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี