ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนายศรี หรือ ปู่ศรี เผือกเสริฐ อายุ 76 ปี อาชีพรับจ้างกวาดถนน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นหลานสาว ขอยืมเงินจำนวน 30,000 บาท โดยปู่ศรีหลงเชื่อ เนื่องจากมิจฉาชีพบอกชื่อและนามสกุลหลานสาวได้อย่างถูกต้อง ทำให้รีบหายืมเงิน กู้หนี้นอกระบบ และโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ผ่านไปกว่า 4 เดือน คดีกลับยังไม่คืบหน้า
นายศรี หรือ ปู่ศรี เล่าเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. ขณะกำลังกวาดขยะอยู่ มีเบอร์มือถือหนึ่งโทรเข้ามา อ้างตัวว่าเป็นหลานสาวชื่อนางสาวเรณู เผือกเสริฐ อายุ 68 ปี ซึ่งชื่อและนามสกุลตรงกับข้อมูลจริง โดยมิจฉาชีพบอกว่า “น้าหาเงินให้หนูหน่อย 30,000 บาท เดี๋ยวประมาณ 15.00 น. หนูจะคืนให้” ด้วยความคิดว่าหลานเดือดร้อน ปู่ศรีจึงรีบไปขอยืมเงินจากเพื่อนบ้านและคนรู้จัก รวมทั้งนำของใช้ไปจำนำ นำเงินที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิตจนรวมได้ครบ แล้วให้หลานชายที่บ้านโอนเงินเข้าบัญชีนางสาวพรชนก คำสุวรรณ ซึ่งเป็นของมิจฉาชีพที่โทรมาอ้างตัวเป็นหลานสาว หลังจากโอนเงินเสร็จสิ้น มิจฉาชีพโทรกลับมาอีกครั้งและขอเพิ่มอีก 20,000 บาท ทำให้ปู่ศรีเริ่มเอะใจและปรึกษาครอบครัว จึงให้คนที่บ้านโทรหา “นางสาวเรณู” ตัวจริง ปรากฏว่าไม่เคยโทรมาขอยืมเงินแต่อย่างใด ปู่ศรีจึงรู้ทันทีว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน และพยายามโทรกลับไปยังเบอร์ของมิจฉาชีพแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้เรื่องนี้ผ่านมาเกือบ 4 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า
ปู่ศรี เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุรู้สึกเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่มีเงินใช้หนี้นอกระบบที่ได้ยืมไว้ บางคนก็ดีกับตน ไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งโดยปกติตนรับจ้างกวาดถนนได้วันละ 300ึ บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ล่าสุดไปพบแพทย์พบว่าเป็นโรคไตระยะที่ 4 โรคเบาหวาน และต่อมลูกหมาก จึงอยากขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยติดตามเรื่องนี้เพื่อขอเงินคืนและนำไปใช้หนี้ที่ยืมมา สุดท้ายนี้ตนอยากฝากเตือนถึงผู้สูงอายุให้ระวังมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นคนรู้จักในครอบครัวและขอยืมเงิน ควรโทรสอบถามหรือพบตัวจริงก่อนเพื่อป้องกันการถูกหลอกในลักษณะนี้
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี