ตำรวจ สภ.สคลองสิบสอง ได้รับแจ้งเหตุมีชายหนึ่งรายถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่หัวไหล่ขวา ที่บ้าน22/58 ม.12 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบนายอั๋น (นามสมมุติ) มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หัวไหล่ขาวได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายภาพบริเวณที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและจะขยายาผลโดยการติดตามดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาคนร้ายต่อไป ในขณะเดียวกันนายโย (ขอสงวนชื่อจริง) พ่อค้าร้านส้มตำได้ขับจักรยายนต์มายังที่เกิดเหตุพร้อมกลุ่มวัยรุ่นและกล่าวเว่าหตุใด น.ส.ลลิตา (แม่น้องผักบุ้ง) มาตามลูกสาวที่มาอยู่กับลูกชายตนกลับบ้านเหตุใดต้องมาทำร้ายข้าวของที่ร้านตนจนเกิดความเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงของอนุญาตเข้าตรวจค้นตัวพ่อค้าส้มตำและพวกแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายจึงถ่ายภาพพร้อมทำประวัติทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานและปล่อยตัวกลับ จากการสอบถาม นายอั๋น (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนกับ น.ส.ลลิตา วันนี้ว่างๆจึงชวนเพื่อนรุ่นน้องอีก 2 คนมาเที่ยวหา น.ส.ลลิตา ตอนเกิดเหตุตนและเพื่อนอีก 2 คนกำลังคุยกันอยู่หน้าบ้าน จู่ๆได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัดจากนั้นก็รู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ขวาตนจึงรีบบอกให้เพื่อนอีก 2 คนนั้นหลบกลัวว่าคนร้ายนั้นจะยิงซ้ำเข้ามาอีก ตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิงปืนนั้นเข้ามาเพราะตนไม่ใช่คนพื้นที่และก็ไม่มีคู่อริและไม่เคยทะเลาะกับใคร วันนี้เพียงมาเที่หาเพื่อนเฉยๆ
ด้านนายอาร์ม (นามสมมุติ) กล่าวว่า นายอั๋นชวนมาเที่ยวหาเพื่อนตนก็เลยมา ตอนเกิดเหตุคนก็นั่งคุยกับนายอั๋นอยู่ดีๆได้ยินเสียงปืนและเห็นนายอั๋นถูกยิงเข้าที่หัวไหลขวา ตนรู้สึกโชคดีถ้าลูกกระสุนไม่โดนที่หัวไหล่นายอั๋นคงเข้ามาโดนที่ศีรษะตนอย่างแน่นอนเพราะระยะและวีถีกระสุนนั้นตรงกันและตนอาจเสียชีวิตไปแล้วก็ได้
ด้าน น.ส.ลลิตา กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุยิงกันที่หน้าบ้านตนตนได้ไปตามลูกสาวตนกลับบ้านจากบ้านแฟนหนุ่มชาวลาวแต่ก็ไม่เคยได้เจอลูกสาวของตนเลยเพราะโดนแฟนชาวลาวของลูกสาวกีดกันขนาดตนซื้อโทรศัพท์ให้ลูกสาวเอาไว้ให้ใช้แฟนหนุ่มก็เอาไปขายและให้ใชโทรศัพท์เครื่องเดียวกับแฟนและไม่ยอมให้คุยกับตน วันนี้ตนจึงเข้าไปตามลูกสาวคนที่ตลาดในพื้นที่และเห็นอยู่ที่ร้านส้มตำของแม่แฟนหนุ่มชาวลาว จึงจึงเข้าไปคุยแต่เกิดโทษะจึงได้พังร้านส้มตำของแม่แฟนลูกสาวและพาตาลูกสาวกลับบ้านทันที และเหตุการณืนั้นตนคิดว่าคนที่มายิงจนเพื่อนตนได้รับบาดเจ็บครั้งนี้คือนายแพรวา หนุ่มชาวลาวแฟนลูกสาวตนอย่างแน่นอนเพราะไม่พอใจที่ตนพาลูกสาวกลับบ้านและก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกค้นตัวนั้นได้ขับรถมาตะโกนด่าพร้อมกับข่มขู่
แม่ค้าส้มตำ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุนั้นแม่ของน้องผักบุ้งและสามีได้เข้ามาตามลูกสาวที่กำลังทอดหมูช่วยตนอยู่ จากนั้นได้ต่อว่าลูกสาวพร้อมกับทำรายข้าวของในร้านของตนจนลูกค้าหนีหายกันไป แม่ของน้องผักบุ้งนั้นไม่ควรทำแบบนี้เลยเพราะตนและสามีนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เห็นเด็กทั้งสองนั้นรักชอบกันและทางฝ่ายน้องผักบุ้งนั้นเป็นคนตามมาอยู่กับลูกชายของตนและพาเข้ามาบ้านได้ 4-5 วันเองแต่ก่อนหน้านี้ลูกชายบอกว่าพากันไปอยู่ที่อื่นก่อนเข้าบ้านอยหลายเดือน ส่วนเรื่องที่มีเหตุยิงกันหน้าบ้านแม่น้องผักบุ้งนั้นตนก็ไม่รู้เรื่องด้วยและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนอยากฝากไปยังแม่น้องผักบุ้งว่าเรื่องครอบครัวของคุณไม่มีใครรู้เรื่องด้วยแต่ไม่ควรทำแบบนี้และไม่ควรทำเช่นนี้กับคนอื่นอีกเพราะตนลงทุนทำมาหากินและต้องใจหาเงินเพราะทุกอย่างนั้นมีการลงทุน เบื้องต้นตนไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วที่แม่น้องผักบุ้งมาทำลายข้าวของที่ร้านตนในครั้งนี้.
ภาพ-ข่าว ธีทัต อุ้มญาติ จ.ปทุมธานี