จากกรณี 2 คนร้าย ยิงปะทะตำรวจ จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา จนท.ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ไล่ติดตามจับกุมคนร้ายเกิดการยิงปะทะกันที่ริมฝั่งโขงบริเวณวัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย คนร้ายได้ขโมยเรือชาวบ้านขับหลบหนี ไม่นานบนฝั่งก็มีเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 1 ราย และ จนท.ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดระเบิด 1 ราย เหตุจากคนร้ายได้ดึงสลักระเบิดออกขู่ไม่ให้ จนท.เข้าจับกุม แต่คนร้ายเกิดสะดุดล้ม ระเบิดหลุดมือระเบิดไส่ตัวเองดับคาที่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
จากนั้น จนท.ได้ประสานไปยัง สน.เรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย พร้อมเจ้าเจ้าที่ออกติดตามคนร้ายที่ขโมยเรือชาวบ้านขับหลบหนี และ ประสานไปยัง เทศบาลโพนสาและ อบต.โพนสา ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ให้ช่วยนำเรือและเจ้าหน้าที่ออกสกัดและติดตามจับกุมคนร้ายที่กำลังหลบหนี และสามารถจับกุมได้ในวันเดียวกัน เนื่องจากเรือที่คนร้ายขโมยมาเกิดน้ำมันหมดกลางโขง คนร้ายจึงใช้เรือบังตัวเองปล่อยไหลมากับน้ำ จนท.ใช้เวลาเจรจากว่า 1 ชม.คนร้ายจึงยอมให้จับกุม
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามสอบถาม พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ ทราบว่า จากผลการตรวจสอบลายนิ้วมือและอัตลักษณ์ของคนร้ายทั้ง 2 ยืนยันว่าเป็นคนไทย ผู้ตายชื่อ นายมานพ ใจดี เป็นชาว จ.สุพรรณบุรี ส่วนคนที่ถูกจับตัวได้ ชื่อ นายธนาสิทธิ์ ฤกษ์สิริกรกุล เป็นชาว จ.ลพบุรี แต่อ้างว่าเป็นคนลาว จากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะของคนร้าย พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดและยาบ้า จำนวน 30 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ โดย นายธนาสิทธิ์ฯ ยังให้การปฏิเสธ ไม่ยอมให้การไดๆ ที่เป็นประโยชน์ที่เกี่ยวคดี อ้างว่าไม่รู้จักกับคนตายเพียงแต่ขอติดรถมาจะไปทำงานที่ จ.อุดรธานี และผู้ต้องหายังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนลาว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
เนื่องจากการสืบสวนเบื้องลึกแล้วมีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 30 เม็ด) , ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ,ร่วมกันต่อสู้และขัดขวางเจ้าพนักงาน , มีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และได้นำตัวส่งฝากขัง ซึ่ง จนท.ตร.จะได้ติดตามขยายผลเพื่อนำผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป:
ภาพ-ข่าว ฤาษีลอภิชาติ ผู้สื่อข่าว จว.หนองคาย