เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ได้รับแจ้งจากผู้หวังดี ว่ามีคนบุกรุกพื้นที่ใหม่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย บริเวณป่าน้ำบ่อสะเป่ หมู่ที่ 3 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากนั้น นายประหยัด จักรแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส (รักษาราชการแทน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามที่ 2 อำเภอปางมะผ้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าปางมะผ้า สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส. 16 (สบป่อง) , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอปางมะผ้า และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อย ร้อย.ร.722 ฐานปฏิบัติการจ่าโบ่
เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีต่อทางราชการ ครั้นเวลา 11 .30 น. คณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ที่ได้รับแจ้งดังกล่าว พบชาย 2 คน กำลังเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร (ถั่วลิสง) อยู่ในพื้นที่ทำการเกษตร ป่าดอยก้างบอกไฟ หมู่ที่ 3 หย่อมบ้านน้ำบ่อสะเป่ ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเข้าแสดงตัวเพื่อสอบถามและขออนุญาตตรวจสอบพื้นที่ ทราบชื่อภายหลังว่า 1.นายเยี่ยวต๊ะ อายุ 28 ปี นายอาหวู่ อายุ 30 ปี ว่าผู้ใดเป็นผู้ยึดถือครอบครองพื้นที่นี้ นายอาหวู่ ได้อ้างว่าตนและนายเยี่ยวต๊ะ ไม่ได้เป็นผู้บุกรุกแผ้วถางยึดถือครองครองพื้นที่นี้แต่ได้รับการจ้างวานให้มาเก็บเกี่ยวขนถั่วลิสง กระสอบละ 100 บาท จากนายหย่าซือ เป็นผู้ยึดถือครอบครองพื้นที่การเกษตรแปลงนี้ ซึ่งนายเยี่ยวต๊ะ ะ และนายอาหวู่ ภูผะ สามารถเป็นพยานชี้ตัวกับที่อยู่อาศัยของนายหย่าซือ ได้ จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวชายทั้ง 2 คนไว้และทำการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ
พบของกลางอุปกรณ์การกระทำผิด จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1.มีดพร้อมฝัก จำนวน 1 เล่ม , 2.รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงินดำ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ทะเบียน 1 กง 1839 แม่ฮ่องสอน จำนวน 1 คัน และ 3.รถจักรยานยนต์ สีแดงดำ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ทะเบียน 2 กน 6075 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน และไม้ของกลางการกระทำผิดถูกกานให้ยืนต้นตายซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบหาชนิดพรรณ ตรวจวัดนับจำนวนคำนวณปริมาตรเพื่อคำนวณหาค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับหากแล้วเสร็จจะจัดทำเอกสารส่งพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป จากนั้นทำการจับพิกัดรอบพื้นที่โดยใช้เครื่องมือจับพิกัดดาวเทียม(GPS) ทำการตรวจวัดพิกัดของพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง รวมจำนวน 17 ซึ่งคำนวณพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางยึดถือครอบครองได้พื้นที่จำนวน 21.57 ไร่ หรือ 21 ไร่ 2 งาน 27 ตารางวา เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศในช่วงก่อนปีพ.ศ.2557
พบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ปรากฏร่องรอยการใช้ประโยชน์ที่ดินจึงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อราษฎรที่แจ้งสิทธิ์การครอบครองที่ดินทำกินตามโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (โครงการแม่ฮ่องสอนโมเดล) พบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งสิทธิ์การครอบครองที่ดินทำกินตามโครงการแต่อย่างใดคณะเจ้าหน้าที่แจ้งให้ นายเยี่ยวต๊ะ ชิวฟะ และนายอาหวู่ ภูผะ ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา 11,๖๙ ฐาน ทำไม้และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54,72 ตรี ฐาน ร่วมกัน“ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”ตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ , มาตรา 53,96 “ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” , มาตรา ๕๕(5),100 ฐาน “เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลาย
ทางชีวภาพ” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , มาตรา 55(2),99 ฐาน ร่วมกัน “ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิม” “ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” , มาตรา 55(6) ฐาน ร่วมกัน “ปลูกต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่นๆภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” “ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท”คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้จัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม ส่งตัวผู้กระทำผิด พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า ต่อไป
ภาพ-ข่าว วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน