ที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ. สามพราน จังหวัดนครปฐม ถึงการจัดงานรดน้ำศพของนายบุญชื่น บุญเกิดรัมย์ หรือแดนบุรีรัมย์ คนเพลงลูกทุ่งมากความสามารถ ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบสิริอายุ รวม 77 ปี เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ที่โรงพยาบาลกาญจนาศาลายา จังหวัดนครปฐม ซึ่งการจากไปครั้งนี้ของแดน บุรีรัมย์สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัว แฟนเพลง แฟนคลับและเพื่อนศิลปินจำนวนมาก
โดยที่ ศาลาสสมุนไพรวังพรม วัดไร่ขิง อ.สามพราน จังหวัดนครปฐม นั้น เป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพ ของแดน บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมรดน้ำศพในช่วงเวลา 17.00 น. โดยมีญาติพี่น้อง จัดเตรียมงานกันด้วยความโศกเศร้า สำหรับในวันนี้มีคนในวงการบันเทิงมาร่วมงานมากมาย อาทิ ชัยชนะ บุญนะโชติ ศิลปินแห่งชาติ พิกุล บุญนะโชติ ภรรยา โน๊ตเชิญยิ้ม โอบะ เสียงเหน่อ น้อยโพธิ์งาม เป็นต้น
โน๊ตเชิญยิ้ม ได้เผยว่ารู้สึกเสียใจขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของแดนด้วย ผมสนิทมาก ผมค่อนข้างจะสนิทและรักห่วงผมมาก ตอนนี้ผมเป็น commentator ในรายการเพลงต่างๆทุกข้อมูลที่ได้มา มาจากพี่แดนทั้งนั้น หากนึกไม่ออกว่าเพลงนี้ต้นฉบับเป็นใครร้อง หรือต้นฉบับใครแต่ง ใครทำดนตรี ประเภทนี้เกิดขึ้นในพ.ศไหน เพลงลูกทุ่งต่างๆ ข้อมูลมาจาก แดน แดนคล้ายกับหอสมุดของเพลงลูกทุ่งของผมทำให้ผมมีอาชีพการเป็น commentator รายการทีวีต่างๆที่เกี่ยวกับเพลงลูกทุ่ง โดยได้ความรู้มาจากพี่แดนทั้งนั้น แม้กระทั่งพรุ่งนี้จะไปออกรายการทราบได้ว่ามีเพลงนี้แต่นึกไม่ออกว่าต้นฉบับของใคร ยังต้องโทรไปสอบถามพี่แดน เพราะพี่แดนจะทราบว่าใครเขียน ใครทำดนตรี และเกิดขึ้นพ.ศไหน ที่มาของเพลงมาอย่างไร ครูบาอาจารย์เขียนเพลงเพราะเหตุใด โดยเฉพาะพี่แดนจะสนิทกับครูชลธี ธารทอง มาก กับอาจารย์ประยงค์ ถือเป็นผู้มีความรู้และเปรียบเหมือนเป็นจดหมาย
ทางด้านครอบครัว น.ส.สุพัชรา บุญเกิดรัมย์ บุตรสาวคนผโต ของแดนบุรีรัมย์ เผยถึงความสูญเสียครั้งนี้ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก ต้องบอกว่าพ่อเป็นทุกอย่างของลูก เป็นทุกอย่างของลูกจริงๆ และสิ่งหนึ่งที่พ่อปลูกฝังและตกมาถึงรุ่นเราคือการศึกษา พ่อบอกว่า อาชีพของพ่อเหมือนหมาล่าเนื้อ ทุกคนต้องมีการศึกษา หากเรามีทรัพย์สินแต่เราไม่มีความรู้จะเก็บไว้ไม่อยู่ เราจึงเอาความรู้มาสั่งสอนลูกหลานต่อไป ทุกอย่างเป็นเหมือนอย่างที่พ่อบอกไว้จริงๆ เหมือนกับที่พ่อบอก ช่วงที่เขาจะเสียชีวิตนั้นไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกทั้งสิ้น
ที่ผ่านมาพ่อได้เข้าออกโรงพยาบาลด้วยการฟอลโล่ติดตามอาการ ร่างกายเป็นปกติ กรณีนี้เช่นกัน เข้าไปในสภาพที่สมบูรณ์ แค่ตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง จนทำให้น้ำท่วมปอด ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยมาแบบนี้ พ่อไม่ได้มีการสั่งเสียใดๆไว้ล่วงหน้า ซึ่งน้องชายอยู่กับพ่อเป็นนาทีสุดท้ายทุกคนมีหน้าที่การงานทำหมดแล้ว ทุกคนรู้สึกเสียใจมากจากการจากไปของพ่อ สุดท้ายคงจะบอกว่าไม่ต้องห่วงอะไรขอให้เดินทางไปพบกับแม่ที่รออยู่
