Statistiche web
ผวจ.แม่ฮ่องสอน ลุยลงพื้นที่เสียหายหนักที่ขุนยวมพบการคมนาคมถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง

ที่บริเวณสะพานข้ามลำห้วยบ้านเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ไปติดตามการซ่อมแซมสะพานข้ามลำน้ำปอน ซึ่งปัจจุบันถูกน้ำในลำน้ำกัดเซาะคอสะพาน จนได้รับความเสียหายและสะพานได้ถล่มลงมาไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งที่นี่เป็นเพียง 1 ใน 3 สะพานของเส้นทางที่ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่เมื่อวานนี้ เบื้องต้น นายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม ได้รายงานว่า ขณะนี้องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ยวมน้อย ได้จัดส่งรถบรรทุกและรถขุดตักมาทำดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบริเวณคอสะพานเพื่อให้ประชาชนชาวบ้านแม่ซอ ได้ใช้สัญจรออกจากหมู่บ้านก่อน โดยมีการเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันนี้ โดยสะพานแห่งนี้จะเชื่อมระหว่างหมู่บ้านมะหินหลวง หมู่ที่ 8 ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม ไปบ้านแม่ลาก๊ะ หมู่ที่ 6 ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม ซึ่งมีความเสียหาย 2 แห่ง

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 4  อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอขุนยวม โดยอำเภอขุนยวม หนักที่สุด โดยเบื้องต้นได้รับทราบความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร โดยหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดกำลังพล ชุดบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับฝ่ายปกครอง อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าดำเนินการสำรวจและการช่วยเหลือประชาชน บ้านแม่โกปี่ ตำบลแม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม โดยใช้เส้นทาง อ.ขุนยวม – บ.ปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ – บ.หัวแม่ลาก๊ะ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน แทนเส้นทางเดิมที่เกิดดินถล่ม และดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ทั้งนี้ฝ่ายปกครองได้นำเครื่องจักรขนาดใหญ่ เข้าเปิดเส้นทาง จนถึง บ้านหัวแม่ลาก๊ะ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่สามารถเข้าถึง บ้านแม่โกปี่ได้จนถึงเวลานี้ ส่วนกรณีมีผู้เสียชีวิต 1 รายนั้นเป็นหญิงอายุ 65 ปี ที่กำลังเฝ้านาแล้วชโงกไปดูกระแสน้ำจนพลัดตกสูญหายไปกับน้ำป่าจนเสียชีวิตนั้นก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยและทางเหล่ากาชาดเตรียมเข้าฟื้นฟูเยียวยาให้การช่วยเหลืออีกครั้ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้ยืนยันและปฏิเสธว่าในพื้นที่อำเภอขุนยวม ไม่ได้มีเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวจนทำให้เกิดดินถล่มปิดเส้นทางแต่อย่างใดตามที่มีกระแสว่อนในสื่อโซเซียล โดยเฉพาะเส้นทางที่จะไปโรงเรียนบ้านแม่โกปี่ ที่มีการระบุว่ามีเด็กกว่า 40 คนถูกตัดขาดไม่สามารถออกจากโรงเรียนเพื่อกับบ้านได้และขาดแคลนอาหารจนทำให้เกิดกระแสในโลกโซเซียลว่าเด็กอดอาหาร และชาวบ้านกว่า 400 ชีวิต ต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนเขาทำให้ไม่สามารถขอรับน้ำดื่มได้นั้น ซึ่งข้อเท็จจริงเด็กนักเรียนทั้ง 40 คนได้กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้ในพื้นที่ไฟฟ้าและการสื่อสารไม่สามารถใช้การได้ ส่วนเครื่องอุปโภคบริโภคทางจังหวัดและอำเภอได้เข้าดำเนินเร่งจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วเป็นการเฉพาะหน้า โดย อบต แม่ยวมน้อย และหน่วยงานต่างๆได้นำอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ เข้าไปให้การช่วยเหลือที่บ้านแม่โกปี่แล้ว ส่วนเด็กๆนั้น ที่หนีน้ำท่วมฉับพลันขึ้นไปบนภูเขาสูงนั้นก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งราษฏรบ้านแม่โกปี่ อาศัยอยู่เชิงเขาและข้างลำห้วย หวาดกลัวเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ทับถมบ้านเรือนของตัวเอง จึงได้อพยพมาขออาศัยนอนที่โรงเรียนบ้านแม่โกปี่เท่านั้น

ฝ่ายปกครองของอำเภอขุนยวม ขณะนี้ได้แผนความช่วยเหลือ เร่งดำเนินการเปิดเส้นทางให้เข้าถึงหมู่บ้าน จาก บ้านแม่ลาก๊ะ ถึง บ้านแม่โกปี่ ระยะทางอีกประมาณ 10  กม. ทั้งนี้อำเภอขุนยวมเตรียมระดมสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ส่งต่อในการช่วยเหลือแล้ว นอกจากนั้นยังขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนในการเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่หมู่บ้าน หมู่ที่ 2 –หมู่ 8 ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม ที่มีสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านชำรุด และมีดินสไลด์ทับเส้นทางหลายแห่งทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้กำลังพลฝ่ายทหารจากหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาทแม่ฮ่องสอน เข้าพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน

Share This