จากกรณีเขื่อนป้องกันน้ำบริเวณประตูระบายน้ำปากคลองบางกรวย ยาวมาถึงใกล้วัดลุ่มคงคาราม พังลงแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นระยะทางกว่า 75 เมตร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเข้ามาตรวจสอบ พร้อมรับปากกับชาวบ้านว่าจะเร่งดำเนินการสร้างขึ้นใหม่ให้เร็วที่สุด แต่ผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว สภาพเขื่อนที่จมน้ำก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีการแก้ไข ชาวบ้านหวั่นว่ากระแสน้ำเหนือที่กำลังไหลลงมาถึงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี อาจทำให้น้ำทะลักไหลเข้าพื้นที่ด้านในเขื่อนได้ และอาจทำให้ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าเขื่อนที่พังลงไปในแม่น้ำยังมีสภาพคงเดิม ไม่ได้มีการรื้อถอนหรือทุบทำลายแต่อย่างใดทุกอย่างยังเหมือนเดิม ซึ่งที่ผ่านมากรมชลประทานได้สร้างแนวเขื่อนดินทดแทนชั่วคราวด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่ชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน แต่ชาวบ้านยังกังวลกลัวว่าคันดินจะรองรับมวลน้ำที่เพิ่มสูงไม่ได้
จากการสอบถามประชาชนที่พักอาศัยที่ริมเขื่อน เล่าว่า ตั้งแต่เขื่อนพังลงไปก็ได้มีทางเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเข้ามาตรวจสอบและอีกหลายหน่วยงานลงพื้นที่มาดู ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมชลได้ทำคันดินเอาไว้ให้ชั่วคราวซึ่งทุกวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาดูอยู่เรื่อยๆ มีตอกเสาเข็มบ้าง แต่เขื่อนที่พังลงไปในน้ำไม่ได้เอาขึ้นมา ซึ่งประชาชนกลัวมวลน้ำที่จะมาถึงทะลักเข้าชุมชนเพราะเขื่อนที่พังลงไปยังไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไข
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี