ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส เวลา 11.00 น.ผู้พิพากษาได้นั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่ ศาลจังหวัดนราธิวาส นัดจำเลย 7 คน ในคดีตากใบ มาสอบคำให้การ หลังจากเมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งรับฟ้องคดีอาญาตากใบ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่นและร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 48 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมขึ้นรถทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ในลักษณะให้นอนซ้อนกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 78 ราย จากการขาดอากาศหายใจ และ 7 ราย เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม โดยศาลเห็นว่าคดีมีมูลตามที่โจทก์ยื่นพยานหลักฐานและมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการเคลื่อนย้ายเกิดขึ้นจริง
ซึ่งศาลนัดเวลา 09.00 น. แต่เมื่อถึงเวลา จนถึงเวลา 11.00 น.ศาลแถลงว่า ศาลได้สอบถามจากทนายวามจำเลยที่ 8 และ 9 ที่มาศาลทราบว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยได้ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งฟ้อง จึงไม่ทราบว่าจะให้เป็นทนายต่อไปอีกหรือไม่และศาลได้ติดต่อไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ได้เช่นกัน ศาลจึงมีคำสั่งออกหมายจับ จำเลยที่ 3 ถึง จำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 8 และ จำเลยที่ 9 ส่วนจำเลยที่ 2 พล.ท.สินชัย นุตสถิตย์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ศาล 4 ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และจำเลยที่ 7 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน อดีตรองผู้กำกับการ สภ.อ.ตากใบ ปัจจุบันเป็น รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เช่นกัน
ซึ่งประกอบด้วยจำเลยที่ 3 พล.อ เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชรอดีตผู้บัญชาการพล.ร.5 ปัจจุบันอายุ 73 ปี จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ปัจจุบัน อายุ 73 ปี จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ปัจจุบัน อายุ 77 ปี จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบัน อายุ 70 ปี จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันอายุ 78 ปี และจำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันอายุ 78 ปี
ส่วน จำเลยที่ 1 คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันอายุ 74 ปี เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จึงได้รับความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 และอยู่ระหว่างสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ศาลไม่สามารถออกหมายจับได้ และจับกุมไม่ได้ ศาลจึงจะมีหนังสือด่วนที่สุดไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขออนุญาตจับกุม จำเลยที่ 1 และมีหมายเรียก พร้อมมีหนังสือด่วนที่สุดให้จำเลยที่ 1 แจ้งว่าศาลนี้ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ขอให้จำเลยที่ 1 แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสละความคุ้มกันและมาศาลในนัดหน้า ซึ่งศาลนัดในวันที่ 15 ต.ค.2567 ส่วนจำเลย 6 คนที่ถูกออกหมายจับ ให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และตำรวจศาล มีอำนาจจับกุมได้ทันทีที่พบตัวภายในอายุความถึงวันที่ 25 ต.ค. 2567 ที่จะถึงนี้
ด้านนายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความของญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการ์ณตากใบ กล่าวว่า ซึ่งมีครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรวม 48 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ ได้เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนจำเลย 7 คน ที่ถูกออกหมายเรียกเพื่อเข้าให้คำให้การที่ศาลจังหวัดนราธิวาสในคดีดังกล่าว หลังจากศาลจังหวัดนราธิวาสรับคำฟ้องในคดีอาญาตากใบ และแจ้งความจำเลยทั้ง 7 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นรวมถึงร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยหลังร่วมรับฟังเปิดเผยว่า ในวันนี้จำเลยทั้ง 7 ไม่ได้เดินทางมาร่วมให้ปากคำไต่สวนแต่อย่างใด มีเพียงตัวแทนจำเลยที่ 8 และ 9 ที่มาร่วมสังเกตการ์ณ แต่ไม่ได้มีเอกสารสิทธิ์มายื่นแต่อย่างใด โดยจากที่จำเลยทั้ง 7 ไม่เดินทางมาร่วมไต่สวนเพื่อให้การในครั้งนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส จึงได้ดำเนินการออกหมายจับ จำเลย 6 คน ยกเว้นจำเลยที่ 1 เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญการเป็น ส.ส. ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสได้จัดทำหนังสือไปยังรัฐสภา เพื่อยกเลิกการคุ้มครองเพื่อให้จำเลยสามารถมาให้ปากคำกับศาลจังหวัดนราธิวาสได้ ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคม 67 นี้ จะมีการนัดไต่สวนและติดตามคดีเพิ่มเติมหลังจากดำเนินการออกหมายจับไปแล้ว ก่อนที่คดีจะหมดอายุความวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้
นายรัษฎา มนูรัษฎา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเรียกร้องให้จำเลยทั้ง 7 มาแสดงตัว เพื่อชี้แจงและสร้างความกระจ่างให้กับประชาชนเนื่องจากประชาชนต่อสู้และรอคอยความยุติธรรมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับตอนชาวบ้าน 59 คน ที่โดนฟ้องทุกคนยังมาศาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นความจริงใจในขั้นต้น หากจำเลยหลบหนีไม่มอบตัว รอจนกว่าคดีหมดอายุความทั้งหมดก็จะยังเป็น จำเลยในใจประชาชน รวมถึงทั่วโลกที่เกิดความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการสิทธิมนุษยชน เพราะจำเลยทั้ง 7 ล้วนเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งในระดับสูง อีกทั้งบางคนยังอยู่ในการระดับบริหารประเทศด้วย อย่างไรก็ตามไม่เดินทางมายังศาลจังหวัดนราธิวาส พร้อมกันของจำเลยทั้ง 6 คน ในครั้่งนี้ ทั้งที่มีการรับหมายนัดทั้งตัวเอง และมีผู้รับจดหมายแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องทบทวน ถึงเจตนาแต่ก็ขอให้นึกถึงจิตสำนึกเป็นเรื่องสสำคัญเพราะเหตุการณ์ตากใบมีทั้งคนตายและคนเจ็บต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งในส่วนของโจทก์ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรทุกคนก็น้อมรับ แต่ขอเรียกร้องให้ทุกคนมาแสดงตัว มารับทราบถึงสิ่งที่ตนเองกระทำไว้
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส