จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Social Hunter 2022 ได้โพสต์ภาพตามหารถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX 160 ทะเบียน 8ขช 8711 กทม สีเทาควันบุหรี่ หลังถูกวัยรุ่นดักทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แล้วเชิดจยย.หนี โดยโพสต์ระบุข้อความว่า “คนร้ายดักทำร้ายวัยรุ่นชายที่บริเวณคลองประปามหาสวัสดิ์ แล้วชิงรถจยย.ป้ายทะเบียน 8ขช-8711 ไป ล่าสุดยังตามจับคนร้ายไม่ได้ หากใครมีเบาะแสรถจยย.ตามในรูป สามารถแจ้งมาได้ที่ 062-190-8992 #นนทบุรี”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานข้ามคลองประปา ม.6 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบนายธวัชชัย วงษามั่น อายุ 25 ปี หนุ่มพนักงานบริษัทผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 15 ก.ย. 67 เวลาประมาณ 05.00 น. ตนได้ขับขี่รถจยย.กลับจากที่ทำงานมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุสะพานข้ามคลองประปา จากนั้นได้แวะซื้อเหล้าขาวที่ร้านชำจำนวน 1 กลม แล้วไปนั่งกินบริเวณริมคลองประปาอยู่คนเดียว โดยนั่งเปิดเพลงฟังจากโทรศัพท์มือถือ จิบเหล้าประมาณ 15 นาที ยุงเริ่มกัดจึงเปลี่ยนที่ดื่มเหล้า ขับรถจักรยานยนต์ออกจากจุดนี้ไปอีกประมาณ 800 เมตร ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองประปาเหมือนกัน จากนั้นตนนั่งดื่มเหล้า เปิดเพลงฟัง ถ่ายรูปเล่น ชมบรรยากาศทิวทัศน์ ขณะนี้มาถึงจุดที่สองนี้ ตนถอดเสื้อทำงานเป็นเสื้อคลุมแขวนไว้ที่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ปรากฏว่ารู้ตัวอีกทีตนนอนอยู่บริเวณจุดกลับรถคลองตาด่อน ซึ่งห่างจากจุดที่ตนดื่มเหล้าล่าสุดประมาณ 1-2 กม.
หลังจากตื่นมา คาดว่าเวลาประมาณสี่ถึงห้าโมงเย็น เนื่องจากตนยังไม่ค่อยมีสติจำความไม่ได้ พบว่าร่างกายตนบอบช้ำทั้งตัว ถูกทำร้ายร่างกายจนตาข้างขวาบวมปิด ท้ายทอยปูดคล้ายถูกของแข็งตีเข้าอย่างแรง และบริเวณแขนซ้ายมีบาดแผล ระหว่างที่ตื่นขึ้นมาตนรู้สึกเจ็บปวดมาก ซึ่งตอนนั้นตนไม่ทราบว่าตนอยู่ที่ไหน จึงมองไปรอบด้านก็พบว่ารถจักรยานยนต์ของตนหายไปแล้ว โทรศัพท์มือถือหาย กุญแจรถที่แขวนไว้กับกางเกงก็หายไปด้วย พร้อมกับหมวกกันน็อค กระเป๋าสะพาย 1 ใบ และเสื้อคลุมบริษัทที่ทำงานแขวนไว้อยู่กับรถจักรยานยนต์ก็หายไป ตอนนั้นสติของตนยังไม่กลับมาเต็มที่ จากนั้นก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ เป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแถวจุดเกิดเหตุ พาตนไปยังร้านค้าชำแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ จากนั้นให้การช่วยเหลือและจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนั้นตนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ไม่เหลืออะไรเลย มีแต่ตัวและบาดแผล ทางผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือได้ให้เงินค่ารถจำนวน 200 บาท เพื่อขึ้นรถรับจ้างไปรักษาตัวก่อน แต่วันนั้นตนไม่ได้ไปโรงพยาบาล ได้กลับบ้านก่อน และวันต่อมาจึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง
หลังจากแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนมาชี้จุดเกิดเหตุและให้ข้อมูล ปรากฏว่าเมื่อมาถึงจุดที่สองที่ตนดื่มเหล้าบริเวณสะพานข้ามคลองประปา พบโทรศัพท์มือถือของตนตกหล่นอยู่ที่จุดเกิดเหตุ แต่ไม่พบรถจักรยานยนต์หรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่หายไป ตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก ไม่มีรถจักรยานยนต์ขับขี่ไปทำงาน รถจักรยานยนต์คันนี้ทางแม่เพิ่งดาวน์ให้ตนใช้ได้เพียงสองเดือนเท่านั้น ราคาประมาณ 120,000 บาท รวมดอกเบี้ย เพราะเป็นรถรุ่นใหม่ ตอนนี้ต้องหาเงินรายได้เสริม หลังจากทำงานต้องขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยใช้รถจักรยานยนต์คันเก่าของแม่มาขับแทน เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่างวดรถที่ผ่อนอยู่
ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้เป็นการชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของตนแน่นอน คาดว่าคนร้ายไม่ได้ทำคนเดียว รวมถึงสภาพตนที่ถูกทำร้ายร่างกายไม่ใช่เกิดจากการขับรถจักรยานยนต์ล้มแน่นอน จึงอยากฝากถึงคนก่อเหตุให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตอนนี้ตนเดือดร้อนทุกอย่าง ทั้งร่างกายและทรัพย์สิน ควรจะมีความคิดมากกว่านี้ ไม่ควรก่อเหตุเช่นนี้ ทั้งนี้อยากขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามคดีเพื่อจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
สุดท้ายนี้ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนดื่มเหล้าหลายๆ คนว่า ถ้าเลิกได้จะดีมาก อย่าไปดื่มอีก เพราะทำให้ขาดสติ พอขาดสติแล้วเรื่องก็จะตามมา ซึ่งปกติแล้วตนไม่ได้ดื่มเหล้าขาว เพียงแต่ดื่มเบียร์เป็นบางครั้ง วันเกิดเหตุตนแค่อยากมานั่งกินฟังเพลงดูบรรยากาศ เหนื่อยจากที่ทำงาน คิดว่าฟ้าสว่างแล้วค่อยกลับ แต่กลับกลายเป็นบทเรียนชีวิตที่ควรจดจำให้ดีที่สุด เพราะเมาภาพตัดจำอะไรไม่ได้เลยตอนเกิดเหตุ
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี