ที่กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ตรวจเยี่ยมโครงการฝึกอบรมเพิ่มทักษะทางยุทธวิธีตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (S.W.A.T.) ของตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด เพื่อให้เกิดความชำนาญ เสริมสร้างความมั่นใจ สามารถนำความรู้และเทคนิคต่างๆ ที่ได้ไปใช้ปฏิบัติงานทางยุทธวิธีตำรวจ ในการปิดล้อมตรวจค้นจับกุม หรือ ต่อสู้ระยะประชิด ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลสูงสุด และลดความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมืออาชีพ
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 มีความสลับซับซ้อนตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปการก่อเหตุของคนร้ายมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องประสบกับความท้าทายในการเข้าเผชิญเหตุ ระงับเหตุ และ จับกุมคนร้าย ทั้งวิกลจริต คลุ้มคลั่ง มีอาวุธ และ ไม่มีอาวุธ ซึ่งต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และอาวุธ ในการเข้าระงับเหตุ อาจเกิดการสูญเสียทั้งทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคนร้ายหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ขึ้นได้
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีพื้นที่ควบคุมดูแลจำนวน 8 จังหวัด 104 สถานี มีภารกิจ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ (S.W.A.T.) ของตำรวจภูธรจังหวัดแต่ละจังหวัดมีหน้าที่ต้องคอยสนับสนุนกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม จากสถานีตำรวจในพื้นที่ทันที่เมื่อมี่การร้องขอ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด่านแรก ที่ต้องเข้าเผชิญเหตุดังนั้นจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และได้รับการพัฒนา ฝึกทบทวนยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดทักษะ และมีความพร้อมในยุทธวิธีสามารถแก้ไขเหตุเป็นมาตรฐานเดียวกัน หรือระเบียบปฏิบัติประจำ ให้สอดคล้องกับหลักกฎหมาย และสามารถประเมินสถานการณ์ ที่เข้าเผชิญเหตุได้อย่างเป็นระบบเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนและสังคมได้ จึงจัดให้มีโครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ และการประเมินสถานการณ์ ป้องกันปราบปราม อาชญากรรมของแต่ละตำรวจภูธรแต่ละจังหวัดขึ้น โดยให้ตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด พิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติพิเศษในสังกัดทั้ง 8 จังหวัด จังหวัดละ 10 นาย รวม 80 นาย เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถตอบโต้ปัญหาจากสถานการณ์ต่างๆ ภายใต้ความกดดันสูง จึงมีความสำคัญต่อผู้ปฏิบัติมากอีกทั้ง เพื่อให้ผู้สำเร็จการฝึกทบทวน สามารถกลับไปเป็นครูต้นแบบด้านยุทธวิธีให้มีสมรรถภาพและความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการมาตรวจเยี่ยม โครงการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจและการประเมินสถานการณ์ การป้องกันปราบปรามของตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษในครั้งนี้ ตนมีความห่วงใยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะด้านงานป้องกันและปราบปราม นั้นมีความสำคัญของเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงาน ด้านสายตรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่และอาจจะพบเจอสถานการณ์ ที่ต้องเผชิญหน้าต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยง จึงต้องให้ความสำคัญกับทักษะในการเข้าระงับเหตุ โดยบางครั้งผู้ปฏิบัติงานอาจจะหลงลืม ทักษะ หรือ ยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุโดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่เกิดขึ้นได้ อาจถึงขั้นเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยทิ้งให้ครอบครัวต้องอยู่แบบขาดเสาหลักไป
นับจากนี้ไปให้ถือว่าเป็นสิ่งคอยกระตุ้นเตือนให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ต้องมีทักษะและความชำนาญในขณะเข้า ใช้ยุทธวิธีในการระงับเหตุ ซึ่งการประเมินสถานการณ์มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น จำเป็นที่ในขณะที่มีกำลังเพียงแค่ 2 นายต้องมีการเรียกกำลังเสริมจากสถานีตำรวจหรือหน่วยงานข้างเคียงที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ การประเมินในแต่ละสถานการณ์จำเป็นต้องยึดมั่นในอุดมคติของตำรวจคือ “ต้องรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต”