จากกรณีที่ นักศึกษาแพทย์พร้อมผู้ปกครองที่เดินทางไปเรียนต่อแพทย์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมหลังจากเดินทางไปเรียนต่อแพทย์ แต่ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยที่เดินทางไปเรียนนั้นหมดอายุการรับรองจากแพทยสภา ทำให้ไม่สามารถที่จะได้ใบรับรองจากแพทยสภา (เมื่อเรียนจบแล้วจะกลับมาสอบใบประกอบวิชาชีพได้) ซึ่งทางผู้ร้องอ้างว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้น มีนักศึกษาแพทย์จำนวน 9 คน ที่เดินทางไปเรียนพร้อมกันได้ทำเอกสารปลอมกลับมาเพื่อให้แพทยสภาออกใบรับรองให้ ซึ่งแพทยสภาก็ออกใบรับรองให้ แต่กลุ่มจำนวนผู้ร้องจำนวน 22 ไม่ได้ดำเนินการด้วย จึงไม่ได้ใบรับรอง ต้องหาที่เรียนใหม่ได้รับความเดือดร้อนมาก ผู้ร้องระบุว่าอยากให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และตรวจสอบว่าการดำเนินการของนักศึกษาแพทย์ที่ส่งข้อมูลขอรับรองไปก่อนหน้า ถูกต้องหรือไม่ และหากไม่ถูกต้องมีผู้ใดที่อยู่ในแพทยสภาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะมีการออกใบรับรองมาให้ ทั้งนี้เพื่อความยุติธรรมและเป็นธรรมจึงเดินทางเข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม
ล่าสุด ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เอ อายุ 21 ปี นามสมมุติ ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆเข้ามาร้องเรียน กับทาง ว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสินรองประธานมูลนิธิเพื่อให้ช่วยเหลือเนื่องจากถูกเอเจนซี่หลอกไปเรียนต่อแต่ไม่ออกใบรับรองให้หลังเรียนจบ
น.ส.เอ นาม สมมุติ กล่าวว่า จากการสอบถาม ตนไปเรียนเป็นนักศึกษาแพทย์ไปเรียนที่ฟิลิปินส์ ไปเรียนจนจะเกือบจะจบแล้ว ซึ่งมีปัญหาเข้ามาคือก่อนจะจบต้องมีการจ่ายเงินเพื่อได้ใบรับรอง แบะตนถูกเอเจนซี่หลอกต่อทอดมา นักศึกษาที่เสียหายมีประมาณ 20 กว่าคน ที่โดยแบบตนและไม่ได้ใบวิชาชีพ จากที่ตรวจสอบพบว่าใบรับรองจะต้องมีการจ่ายเงินจริงแค่ 15,000 บาท แต่ทางเอเจนซี่มาเก็บเพิ่ม และมีการพูดคุยกันในกลุ่มว่าใครอยากจบต้องจ่าย ส่วนนักศึกษา9คนที่ตนได้ยื่นข้อร้องเรียนไป เขาได้จ่ายเงินเพื่อได้ใบรับรองมา ส่วนคนที่เหลือจะไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีเอเจนซี่เป็นของตัวเอง และไม่ยอมจ่ายตามที่เขากำหนดมา ตนจึงอยากให้ช่วยเหลือขอความเป็นธรรมกับการที่ตนไปร้องเรียนเรื่องแพทยสภา ที่ตนร้องเรียนไปเรื่องของนักศึกษา 9 คน ที่ได้ใบรอง วิชาชีพโดนการจ่ายเงินไป 3 หมื่น คนไม่ได้จ่ายก็ไม่ได้ใบรับรอง และตอนไปเรียนตนได้เสียเงินไปทั้งหมดประมาณหลักล้าน จึงอยากให้มีการตรวจสอบที่แพทยสภาว่าให้ใบรับรองแบบนี้ได้ยัง
ว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้รับข้อมูลมาจากน้องนักศึกษาแพทย์แล้ว กำลังตรวจสอบและจะเข้าไปที่แพทยสภาเพื่อดูข้อเท็จจริง ตนอยากจะทราบคำตอบว่ามหาลัยที่น้องผู้เสียหายเข้าไปเรียนมีใบรับรองจากแพทยสภาหรือไม่ และจะต้องดูเอกสารของน้อง 9 คน ที่ได้ใบรับรองไปว่าทีเจ้าหน้าที่ของทางแพทยสภาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ที่มีการออกไปรับรองไป ตนจึงจะต้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะบุคลากรทางการแพทยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะเรียนจบมาจากการจ่ายเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูความถูกต้องด้วย เพราะจบหมอไปมีผลต่ออนาคตของการรักษาคนไข้
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี