ที่ห้องประชุม เทศบาลตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายก่อชิ เพชรไพรพนาวัลย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง ทั้งสอง เป็นพยานในพิธีลงนามข้อตกลงร่วมลงทุนโครงการบริหารกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนปราศจากมลพิษ ผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็ก (Very Small Power Product : VSPP) กำลังผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 MW(เมกาวัตต์) โดยใช้ขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเชื้อเพลิง บริษัทเอกชนนำโดย MR.เจ้า เตเปี่ยน (Mr. Cao Debiao) CEO บริษัท China Tlanying Inc. หรือ บริษัท CNTY ลงนามกับนายบัณฑิต เดชฤาษี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซเว่นซัน 2514 โดยมีสักขีพยานอีกคือเจ้าหน้าที่อำเภอจอมทอง ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.จอมทอง และนายก อปท.ในพื้นที่ และสมาพันธ์นักธุรกิจเก็บขนสิ่งปฏิกูลมูลฝอยภาคเหนือ (เชียงใหม่) ร่วมในพิธี
MR.เจ้า กล่าวว่าหลังจากพิธีลงหลังจากวันนี้ บริษัทฯจะเริ่มลงมือก่อสร้างโรงงานทันที คาดว่า 24 เดือน หรือ 2 ปี จะสร้างโรงงานให้แล้วเสร็จ สามารถกำจัดขยะได้มากถึง 500 ตันต่อวัน หรือมากสุดได้ 650 ตันต่อวัน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10 MW. (เมกาวัตต์) ซึ่งบริษัทได้ลงทุนโครงการดังกล่าว ประมาณ 2,300 ล้านบาท จะทำให้ชาวเชียงใหม่ได้ประโยชน์ทางเรื่องการแก้ไขปัญหาขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการกำจัดขยะแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง จากประสบการณ์ที่จัดสร้างโรงกำจัดขยะผลิตกระแสไฟฟ้าดังกล่าวมาแล้วที่ประเทศจีน และนำคณะผู้บริหารทางจังหวัดเชียงใหม่ และทางอำเภอจอมทองไปศึกษาดูงานแล้ว เป็นโรงงานที่เป็นเหมือนสวนสุขภาพ และรูปแบบการสร้างโรงงานดังกล่าวที่จะนำมาเป็นต้นแบบก่อนจะลงมือก่อสร้างในพื้นที่ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะทันสมัยและมีคุณภาพมากกว่า เพราะปัจจุบันมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีคุณภาพที่ดีกว่าโรงงานต้นแบบที่ประเทศจีน ซึ่งที่จีนนั้นได้ดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นที่ศึกษาดูงานของนานาชาติมาแล้วหลายประเทศ“ MR.เจ้า เตเปี่ยน CEO บริษัท CNTY กล่าว
ทั้งนี้ทาง นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายก่อชิ เพชรไพรพนาวัลย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหลวง และMR.เจ้า เตเปี่ยน CEO บริษัท CNTY กับนายบัณฑิต เดชฤาษี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซเว่นซัน 2514 ได้หารือกันที่ศาลากลางเชียงใหม่ และร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงกันท่ามกลางสักขีพยานหลายฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย
การลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นผลพ่วงมาจากนโยบายแห่งชาติของการจัดการให้ขยะหมดสิ้นจากชุมชน โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบวิธีการให้แต่ละจังหวัดจัดการขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นจากภาคครัวเรือนโดยการนำมากำจัดอย่างถูกวิธี โดยอนุญาตให้ทั่วประเทศรวมกลุ่ม จัดการขยะด้วยวิธีการเผาแบบไร้ควันนำพลังงานความร้อนผลิตไฟฟ้า เนื่องจาก จ.เชียงใหม่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวมีขยะเกิดขึ้นประจำจากประชากรในจังหวัดประมาณ 1,800 – 2,000ตัน/วัน ทั้งยังมีขยะเกิดจากนักท่องเที่ยวรวมทั้งประชากรแฝงอีกส่วนหนึ่ง ทำให้มีขยะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 300-400 ตัน/วัน รวมแล้วขยะทั้งจังหวัดจะมีมากกว่า 2,500 ตัน/วัน จากที่ผ่าน จ.เชียงใหม่ไม่มีพื้นที่ กำจัดขยะที่เหมาะสม เป็นของรัฐบาล มีการกำจัดขยะโดยวิธีการฝังกลบโดยภาคเอกชน ซึ่งเกิดต้นทุนในการจัดการที่ไม่คุ้มต่อการบริหารงานท้องถิ่น ทั้งยังมีขยะเพิ่มจากจำนวนประชาชนที่เติบโตขึ้นทุกๆปี กว่าเท่าตัว
ทางกระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร่วมกันบูรณาการทุกภาคส่วน อาทิเช่นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,กระทรวงสาธารณสูข,กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งกรมกองต่างๆ ได้ออกเป็นข้อกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ร่วมกลุ่มจัดการคัดเลือกเทคโนโลยีมากำจัดขยะที่ทั่วโลกยอมรับซึ่งได้เลือกว่าการเผาขยะแบบสมบูรณ์แปรสภาพเป็นพลังงานไฟฟ้านั้นดีที่สุด ประหยัดทั้งงบประมาณ ทำให้ขยะหมดสิ้นอย่างรวดเร็วรวมทั้งนำความร้อนผลิตไฟฟ้ากลับไปในรูปแบบพลังงานสะอาดได้อีก ซึ่งต้องเป็นโรงไฟฟ้าปราศจากมลพิษ โดยใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงเมื่อ จ.เชียงใหม่ มีขยะมากกว่า 2,500 ตัน/วัน จึงมีการจัดการกลุ่มผู้จัดการ ( Clusters ) 3 กลุ่ม เทศบาลตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็น Clusters 3 ได้เสนอตนเองเป็นเจ้าภาพรวมกลุ่มนำรูปแบบการจัดการด้วยการเผาขยะนำความร้อนผลิตไฟฟ้าในรูปแบบของผู้ประกอบการขนาดเล็กมาก (VSPP) Very Small Power Producer นำไฟฟ้าที่ได้เสนอขายให้กับ PEA ได้ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ จัดการโครงการนี้ แบบ B.O.T (Build Operate Transfer ) รัฐร่วมกับเอกชน เอกชนผู้ลงทุนให้สัญญาว่าจะ เป็นผู้ลงทุนออกแบบก่อสร้างและบริหารจัดการโรงงานกําจัดขยะมูลฝอยชุมชนปราศจากมลพิษเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กมาก VSPP ( Very Small Power Producer) ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมทันสมัย มีการจัดการขยะให้ได้มากกว่า 500 ตัน/วัน ซึ่งโครงการที่เทศบาลบ้านหลวงจะใช้เทคโนโลยีเตาเผาจากยุโรป และมีผู้ประกอบการด้านการจัดการขยะจากประเทศจีน มีประสบการณ์มามากกว่า 20 ปี จะเข้ามาร่วมดำเนินการโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ได้มี บริษัท เซเว่นซัน 2514 จำกัด เป็นผู้รับสัมปทาน และมีผู้ร่วมทุนคือ บริษัท CNTY ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน จากประเทศจีน
นายบัณฑิต เดชฤาษี ผู้บริหารบริษัท เซเว่นซัน 2514 จำกัด ได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองรู้ว่าวิธีการกำจัดขยะโดยการเผานั้น มีมากกว่า 30 ปีแล้ว ที่ประเทศสิงคโปร์ ต่างประเทศนี้ไม่มีการฝังกลบขยะ ซึ่งนำเทคโนโลยีการเผาที่ทันสมัยมาใช้ขยะมูลฝอยของบ้านเรือนในประเทศไทยนั้นวิเคราะห์แล้วมีค่าความความร้อนดีมาก จากสมัยก่อนต้องใช้ขยะมากกว่า 100 ตัน จะได้ไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ ตอนนี้ใช้ขยะแค่ 50 – 60 ตัน ได้ความร้อนผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ เมื่อโรงไฟฟ้านี้ตั้งเป้ากำจัดขยะที่ 600 ตัน/วัน จะได้ไฟฟ้าประมาณ 10 เมกะวัตต์ สามารถกำจัดขยะให้ชุมชนได้หมดสิ้น 600 ตัน ภายใน 1 วัน
ซึ่งทางบริษัท CNTY ที่สนใจมาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวจากจีนมาจำนวนมากทั้งที่อยู่อาศัยพำนักระยะยาว นำลูกหลานมาเรียนในตัวเมือง,มีนักท่องเที่ยวจากจีนมาเพิ่มทุกๆปี ผู้คนในเชียงใหม่อัธยาศัยดีให้การต้อนรับดี ให้ความอบอุ่นใจ มีสถานกงสุลจีนตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว บริษัท CNTY เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารโรงไฟฟ้าขยะในประเทศจีน และอีกหลายประเทศในเอเชีย ทางบริษัทได้เป็นผู้ผลิตเตาเผาเองส่งขายให้กับโรงไฟฟ้าต่างๆ ในทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยีจากยุโรป นำเทคโนโลยีอื่นๆ มาพัฒนาตามเช่น ระบบเผาไหม้ไร้ควัน ,เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีย,การจัดการระบบน้ำ และจัดการกำจัดขยะให้รวดเร็วในวันต่อวัน
“การลงทุนในเชียงใหม่ ทางบริษัทจะลงทุนเป็นที่แรกกับพันธมิตรเรา จะทำให้ดีที่สุดและทำให้สวยที่สุดกว่าที่ใดๆ ในโลก พร้อมที่จะร่วมกับ พันธมิตรเรา คือ บริษัท เซเวนซัน 2514 ลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอีก 5 -7 แห่ง ภายใน 2 ปี.
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่