ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในลานพญาเต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร นางจุ๋ม นามสมมติ อายุ 56 ปี ชาว อ.เต่างอยพร้อมพวกร้องเรียนผู้สื่อข่าวและเข้าแจ้งความต่อ พงส.สภ.เต่างอย เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2567 ว่า เมื่อประมาณเดือนต้นมีนาคม 2567 ตนถูกผู้หญิงรายหนึ่งเข้ามาตีสนิททำให้น่าเชื่อถืออ้างว่าสามี ชาวจีน เป็นเจ้าขอโรงงานแห่งนึ่งประกอบธุรกิจค้าขายอาหารทะเล เข้ามาพบกับตนที่ร้านให้เช่าซื้อรถกระบะตอนเดียว ที่รถยนต์ใน จ.อุดรธานี โดยจะให้ค่าตอบแทนจากเงินที่เหลือจากการใช้ดาวน์รถ ให้ผู้ตนเป็นผู้เช่าซื้อแทนโดย น.ส.ศรี(นามสมมุติ) อ้างว่า ตัวเองเป็นผู้มีประวัติติดแบล็คลิสต์บูโร จึงไม่สามารถเป็นผู้เช่าซื้อได้ เพื่อที่จะนำรถยนต์ไปใช้งาน ตนหลงเชื่อจึงดาวน์รถให้ โดย น.ส.ศ(นามสมมุติ) จะได้ทำการชำระเงินเองทั้งหมด จนกว่าจะเสร็จสิ้นสิ้นสัญญา เมื่อรับรถยนต์ไปแล้วครั้งแรกก็ส่งงวดให้แต่ตอนหลังขาดส่งหลายงวด บริษัทไฟแนนซ์จึงได้ทวงถามเกี่ยวกับการชำระค่างวดมาหาตน ซึ่งตนได้พยายามติดต่อ น.ส.ศรี(นามสมมุติ แต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ สภ.เต่างอย เพื่อขอให้ดำเนินการช่วยเหลือและติดตามทรัพย์สินติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วย
เช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้ทยอยเข้าแจ้งความตำรวจไปแล้วมากกว่า 50 ราย คาดว่าจะมีผู้เสียหายถูกหลอกกว่า 100 ราย บางรายก็อายไม่กล้าแจ้งความ โดยพฤติกรรมจะให้ชาวบ้านที่ตีสนิทแล้วเป็นผู้เช่าซื้อรถ จยย.ให้ อ้างว่าจะนำไปให้ลูกน้องใช้วิ่งส่งของ บางรายถึงขนาดออกเงินสดให้เป็นแสนซื้อรถให้โดยคาดว่าจะได้เงินคืนพร้อมส่วนต่าง น.ส.จุ๋๋ม กล่าว ทั้งกลั้นสะอื้นที่ไปหลงเชื่อ แบบหมดใจจึงเสียใจมาก ออกรถให้เขาเรากลับมาเป็นหนี้ ในบ้านของตนมี 8 คนที่หลงเชื่อออกรถให้ ซึ่งร้านขายรถก็กระจายอยู่ใน อ.เต่างอย อ.โคกศรีสุพรรณ และ อ.เมือง เป็นต้น ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร