จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความเตือนภัยผ่านกลุ่ม “ข่าวสาร-คนไทรน้อย” ถึงปัญหาผู้เช่าบ้านที่ไม่ชำระค่าเช่าและทิ้งบ้านในสภาพทรุดโทรม โดยโพสต์ประกอบด้วยภาพบ้านทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่งในหมู่บ้านย่านบางบัวทอง ถ.บางกรวย-ไทรน้อย จ.นนทบุรี สภาพภายในบ้านเต็มไปด้วยกองขยะและทรัพย์สินที่พังเสียหาย นอกจากนี้ยังพบอุจจาระสุนัขกองอยู่ทั่วพื้นบ้าน โดยผู้โพสต์ระบุว่าผู้เช่าค้างค่าเช่า ค่าน้ำ และค่าไฟฟ้ารวมกว่า 20,000 บาท จากนั้นย้ายของหนีออกไปกลางดึก โดยโพสต์เตือนเจ้าของบ้านเช่ารายอื่นให้ระมัดระวังการเลือกผู้เช่า
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบสภาพบ้านในความเสียหายอย่างหนัก บริเวณหน้าบ้านเต็มไปด้วยอุจจาระสุนัข ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ภายในบ้านพบกองอุจจาระเด็ก กองขยะ เศษอาหาร และเฟอร์นิเจอร์ที่พังเสียหายหลายจุด น้องสาวของเจ้าของบ้าน ได้เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ถูกปล่อยเช่าเป็นครั้งแรก โดยเจ้าของบ้านซึ่งเป็นพี่สาวของตนตัดสินใจให้เช่าเนื่องจากย้ายไปอยู่กับตนที่บ้านหลังอื่น การเช่าครั้งนี้ผ่านการแนะนำของเพื่อนที่เป็นเอเจนต์จัดหาผู้เช่ามาให้ ซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกประมาณ 7 คน มีพ่อแม่ และเด็กอีก 5 คน เมื่อผู้เช่าติดต่อมาได้ขอเข้าพักอย่างเร่งด่วน ทำให้เจ้าของบ้านรีบทำสัญญาเช่า โดยมีเงินประกันทรัพย์สิน 12,000 บาท และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน 6,000 บาท รวมเป็น 18,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากเอเจนต์ว่าผู้เช่าไม่สามารถติดต่อได้และค้างค่าเช่าเดือนตุลาคม 6,000 บาท เมื่อเข้าตรวจสอบบ้านจึงพบว่าผู้เช่าย้ายออกไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเศษขยะและคราบสกปรกทั่วบ้าน บริเวณหน้าบ้านพบโซ่ล่ามสุนัข 2 อัน กองอุจจาระสุนัขกว่า 3-4 กอง ส่วนในบ้านมีกองอุจจาระเด็กติดอยู่กับกางเกง และมีกองขยะน้ำท่วมขังในห้องครัว และกลิ่นเหม็นจากเศษอาหารที่สะสมอยู่ในซิ้งค์ล้างจาน แมลงวันตอมทั่วบริเวณ ชั้นสองของบ้านก็พบความเสียหายมากมาย ห้องน้ำเต็มไปด้วยคราบสกปรก เครื่องสุขภัณฑ์ชำรุด พื้นเต็มไปด้วยเศษขยะ ห้องนอนมีเตียงและตู้เสื้อผ้าชำรุด ผ้าม่านขาดเป็นรูจากการกัดของสุนัข และยังพบขวดน้ำพลาสติกซึ่งคาดว่าใส่ปัสสาวะไว้บนตู้เสื้อผ้า
พี่สาวตนไม่เคยคาดคิดว่าผู้เช่าจะทิ้งบ้านในสภาพนี้ หลังจากตรวจสอบค่าน้ำและค่าไฟฟ้าพบว่าผู้เช่าค้างชำระรวมกว่า 12,000 บาท นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำใหม่อีก 2,000 บาท แม้ว่าผู้เช่าจะโอนค่าไฟมาให้ 4,000 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับยอดที่ค้างอยู่ทั้งหมด ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านต้องรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง ตนและพี่สาวไม่คิดว่าจะต้องพบเจอปัญหาเช่นนี้ จึงไม่เคยเข้ามาตรวจสอบบ้านบ่อยนักเพราะระยะเวลาที่ปล่อยเช่าแค่เพียงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
หลังจากเห็นสภาพบ้าน ตนได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง แต่ตำรวจแจ้งว่าเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา ทำได้เพียงบันทึกประจำวัน ตำรวจยังกล่าวด้วยว่า “เรื่องนี้เป็นความทุกข์ของคนมีตังค์” ทำให้เธอรู้สึกแย่เพราะตนไม่ได้มีฐานะ หากมีก็คงไม่ต้องปล่อยบ้านให้เช่า และยังถูกแนะนำว่าให้นำเงินไปซ่อมบ้านแทนการจ้างทนาย น.ส.ซันพยายามติดต่อผู้เช่า แต่ดูเหมือนจะถูกบล็อกเบอร์ไปแล้ว สุดท้ายจึงได้นำเรื่องนี้มาร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อเตือนเจ้าของบ้านเช่ารายอื่นให้ระมัดระวัง และตรวจสอบประวัติผู้เช่าให้ละเอียดเพื่อป้องกันปัญหา ตนยังฝากถึงผู้เช่ารายนี้ว่าควรรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งประเมินเบื้องต้นน่าจะสูงถึงเกือบแสนบาท
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี