Statistiche web
นนทบุรี คุณตาเชื้อเจ้าต้นตระกูล ณ.ลำปาง อดีต ผจก.ธนาคาร ฝากเตือนประชาชนหลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้มุกเดิมหลอกสูญ เงินเกือบล้าน

นายเจ้า ศรีรัตน์ ณ. ลำปาง อายุ 86 ปี นำหลักฐานเอกสารต่างๆ  เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมอุบายเดิม หลอกเป็นตำรวจ แล้ว Video Call แจ้งกับตนเองว่าบัญชีธนาคารของตนมีส่วนพัวพันกับแก๊งสีเทาเป็นบัญชีผ่านของพวกบัญชีม้า ให้ตนโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีมาตรวจสอบ มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าศรีรัตน์ ณ.ลำปาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อดีตตนเป็นผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปทุมวัน กรุงเทพ และเกษียณมาเมื่อปี 28 ต้นตระกูลของตนเองมีเชื้อสายเจ้า และเป็นเจ้าของนามสกุลดัง “ณ.ลำปาง” เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 มิถุนายน 67 ได้มีชายอ้างว่าเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่ง รองผู้กำกับ สภ.เมืองสุรินทร์ โทรเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์มือถือของตน และบอกกับตนว่าบัญชีที่ตนมีอยู่ ตรวจพบว่ามีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทา เป็นทางผ่านของบัญชีมาหลายบัญชี ให้ตนเองโอนเงินในบัญชี มาให้ตรวจสอบมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี แต่หากพบว่าไม่มีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทาก็จะคืนเงินทั้งหมดให้และจะมีเงินเยียวยา ให้ก้อนหนึ่ง  ตนหลงเชื่อจนสนิท ใจ เนื่องจากเขาเปิดกล้องและวีดีโอคอลแต่งชุดตำรวจ เขารู้กระทั่งว่ามีเงินโอนเข้ามา 900,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บค่าเช่าที่ในแต่ละปีในจังหวัดลำปาง เขาบอกให้ตนเองโอนเงินไปที่บัญชี ธ.กสิกรไทย หมายเลข 1872633-401 ชื่อบัญชี นายชัยมงคล  ดวงตา ตนบอกว่าตนไม่ได้ใช้ Booking Bank เขาจึงบอกให้ตนเองเบิกเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนเอง ซึ่งมียอดอยู่ 855,000 บาท ตนจึง เบิกเงินจากธนาคาร นำเงินใส่ถุงขับรถมาที่ธนาคารกสิกรไทย ในห้างแห่งหนึ่งย่านติวานนท์ ก่อนจะนำเงินสดจำนวนดังกล่าว ให้พนักงานเขียนใบฝากและโอนเงินไปให้ในบัญชีของนายชัยมงคล เป็นที่เรียบร้อยตามที่เขาบอก

หลังจากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ได้ทัก LINE มาถามตนเองอีกว่า ยังมีทรัพย์สินอะไรที่จะให้ตรวจสอบอีกไหม ตนจึงบอกไปว่า มีทองคำอีก 8 บาท ที่เก็บไว้ ชายคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นรองผู้กำกับ จึงบอกให้ตนเองนำทองคำทั้งหมดไปขาย แล้วโอนเงินมาให้เขาตรวจสอบ ตอนนี้ตนจึงรู้สึกเอะใจและเชื่อแน่ว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแล้ว จึงไม่ได้นำทองไปขาย และโอนให้เขา จากนั้นจึงเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่โอนไป แต่ทางธนาคารบอกให้ตนมาแจ้งความก่อน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายเจ้า ศรีรัตน์ ณ. ลำปาง อายุ 86 ปี ในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายเจ้า ศรีรัตน์ ณ. ลำปาง อายุ 86 ปี กล่าวว่า ตอนที่คอลเซ็นเตอร์โทรมาขอตรวจสอบเงิน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ไม่ได้บอกญาติๆด้วย ตนทำเองคนเดียวด้วยความบริสุทธิ์ใจตนจึงให้ตรวจสอบ ถ้าแก้ผ้าตรวจสอบได้ตนก็แก้แล้ว อยากจะให้ญาติพี่น้อง หรือประชาชนทั่วไปได้รู้ถึงกลโกงของคอลเซ็นเตอร์ว่าเดี๋ยวนี้มีเล่ห์เหลี่ยมมาทุกรูปแบบ ทั้งๆที่เราก็ระวังตัวเต็มที่ ตัวของตนเองจะเป็นห่วงลูกหลานว่าจะโดน แต่ตนเองก็มาโดนตนก็ไม่รู้จะว่ายังไงดี มันก็สุดวิสัยจริงๆที่จะหลีกเลี่ยง เอาเป็นว่าก็ขอให้ประชาชนทั้งหลายระมัดระวังกันให้มากขึ้น ตอนนี้ตนก็ฝากให้ตำรวจดำเนินการ โดยที่ตนไม่ได้หวังว่าจะได้เงินคืนเพราะมันคงลอยออกไปแล้ว พอหลังจากนั้นคอลเซ็นเตอร์ก็โทรมาหาตนอีก ตนก็เลยตั้งใจฟังว่าจะมาไม้ไหนอีก เพื่อที่ตนจะได้จับได้และไล่ทัน ตนก็เตือนคนไปทั่วหมดเลย แต่ตัวเองถูกหลอกเองซะอย่างงั้น

ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นคือ ตนไปเบิกเงินค่าเช่าที่ธนาคารในโลตัส มา 900,000 บาท ตนก็ถอนมาเพื่อจะเอามาแบ่งให้หลานๆเท่าๆกัน 3 ส่วน  หลังจากนั้นแก็งคอลเซ็นเตอร์ก็โทรมาทันที ว่ามีคนแอบอ้างเอาชื่อตนเปิดบัญชีที่นู้น อ้างว่าเป็น น.ส.นั้น นาง นี้ อ้างว่าเป็นหลาน ตนก็ได้บอกว่าไปว่าตนไม่ได้ให้ใครไปเปิดบัญชีที่นี้แล้วหลังจากนั้นก็มีตำรวจมา ตนก็คิดว่าเป็นตำรวจจริง เขาก็บอกให้ตนโอนเงินไปให้ลูกน้องของเขาที่สมุทรปราการ ธ.กสิกร เขาบอกว่าเป็น รอง ผกก. ที่ จ.สุรินทร์ เขาก็ส่งดอกสารมาขู่ตนว่าทำความผิดอะไรบ้าง ในไลน์ ตนก็ได้โอนเงินไปให้เขา 855,000 บาท เพราะตนคิดว่าเป็นตำรวจจริง พอหลังจากนั้นตนเลยส่งไปให้หลานตรวจสอบอีกที เขาก็จะถามว่ามีหลักทรัพย์อะไรบ้าง ให้ตนเอาทองที่มีไปขายและให้ไปซื้อทองอะไรอีกหลายๆอย่าง วุ่นวายไปหมดจนตนเอะใจ พอรู้ตัวว่าโดนหลอกแล้วแน่ๆ ตอนแรกตนไปให้ธนาคารอายัดบัญชีดังกล่าว แต่ธนาคารบอกต้องไปแจ้งความก่อนถึงจะอายัดได้ตนก็ไปแจ้งและมาอายัด ตอนที่โดนนั้นเหมือนมีมนต์ดำบอกให้ทำอะไรตนทำหมด ตอนนี้ตนก็รอ 1441 จะทำอะไรต่อไป

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี

Share This