Statistiche web
อ่างทอง ไม่มีวันหมด ทางหลวง จับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย รับสารภาพทำมาหลายครั้ง ๆ  ละหมื่นบาท

ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.๑ บก.ทล.(สระบุรี)  ออกตรวจตามพื้นที่บริเวณถนนสายเอเชีย ทล.32 พื้นที่ ต.หาดอาษา  อ.สรรพยา  จ.ชัยนาท  เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มรถยนต์กระบะสีเทา และ สีดำ จำนวน ประมาณ 5 – 6 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า  ขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ  ซึ่งมีผ้าใบปิดที่ด้านท้ายรถลักษณะต้องสงสัยและมีพิรุธ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง  รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด  เมื่อกลุ่มรถยนต์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง  จึงพากันหลบหนีไปตามเส้นทาง  จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.120-119 ขาเข้า  ถนนสายเอเซีย ทล.32  ต.หาดอาษา  อ.สรรพยา  จ.ชัยนาท  จึงสามารถหยุดรถทั้ง 6 คันไว้ได้

จึงได้ขอทำการตรวจสอบพบต่างด้าวสัญชาติเมียนมา  นอนอัดแน่นมาท้ายกระบะรถมีผ้าใบปิด  และนั่งอัดแน่นมาในห้องโดยสาร  เบื้องต้นสอบถามผู้ขับขี่ทั้ง 6 คัน  ให้การรับสารภาพว่านำพาบุคคลต่างด้าว  นั่งโดยสารมากับรถยนต์ด้านหน้าและด้านท้ายรถทั้ง 6 คันด้วย  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญทั้งหมดมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่  หน่วยบริการตำรวจทางหลวงชัยนาท  พบว่าเป็นบุคคลคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา  ทั้งหมดนับรวมได้ 89 คน  และไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดง (ผ่านล่ามแปล)  โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว 

จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 6 คัน ต่างให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้รับการประสานเพื่อนชาวไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณ  อ.วังเจ้า  จ.ตาก  เพื่อไปส่งปลายทางที่  จ.สุพรรณบุรี  โดยได้ค่าจ้างคันละ 10,000 บาทต่อครั้ง  และต่างรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง  และต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมด  ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใด ๆ  และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง  จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ  โดยต่างได้กระทำแบบนี้มาแล้ว 3 – 4 ครั้ง  เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยว  และใช้จ่ายต่าง ๆ 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามบุคคลต่างด้าวทั้งหมด  ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา  ให้การยอมรับว่า  ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ  และเดินข้ามมาในพื้นที่  อ.แม่สอด  จ.ตาก  โดยจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา  เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย  โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 – 20,000 บาท  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา  ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งหมดข้อหา  “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ”  และบุคคลต่างด้าวทั้งหมดข้อหา  “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ”  และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน  สถานีตำรวจภูธรสรรพยา ภ.จว.ชัยนาท  ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ-ข่าว กนกศักดิ์ / อ่างทอง

Share This