นางลำใย ชาสงวน อายุ 68 ปีเป็นเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว ส้มตำไก่ย่าง ที่ จ.มุกดาหารโดยเมื่อ เวลาประมาณ 10:00 น. ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร้อยตำรวจเอกอุทัย ศรีแนน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองมุกดาหาร โดย นางลำใย อายุ 68 ปี ได้กู้เงินกับนาย โจ (นามสมมติ)เป็นแก๊งรับจ้างทวงหนี้ให้นายทุนปล่อยเงินกู่นอกระบบ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทเพื่อลงทุนค้าขาย และได้ทำสัญญาที่บ้านของตนเอง ส่งรายวันๆละ 100 บาท เฉพาะดอกเบี้ย คิดอัตราร้อยละ 2 บาทต่อวัน ตนเองทำสัญญากู้กับนาย โจ ไว้ ซึ่งนายโจเก็บสัญญาไว้คนเดียว
ตนเองได้จ่ายดอกเบี้ยมาโดยตลอดจนครบ จำนวนเงิน 5 000 บาท ส่วนต้นเงินคงเหลือแก๊งรับจ้างทวงหนี้บุกมาที่ร้านข่มขู่ทวงเงินต้น 5000 บาทจนลูกหนี้กลัวถูกทำร้ายจึงยอมนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอ็มเอสเอ็ก มาตีราคา 12000บาท ใช้หนี้ให้กับนายโจ ซึ่งนาย โจ ยอมรับเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจากตนไปทำให้ตนกับลูกสาวได้รับความเดือดร้อนเมื่อนถูกตัดแข่งตัดขาไปในก็ลำบากในบ้านมีรถจักรยานยนต์คันเดี่ยวก็ถูกยึดไปได้รับความเดือดร้อนมาก
ซึ่งหลังจากแก๊งรับจ้างทวงเงินนอกระบบก็หายเงียบไปนาน 3-4 เดื่อนล่าสุดเมื่อวันที่23 พ.ย. 2567 แก๊งรับจ้างทวงหนี้มาด้วยกัน 2 คนมาถทวงหนี้เงินต้น 5000 บาท ลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายเพราะยึดรถจักรยานยนต์ไปก็ปลดหนี้กันไปแล้วแต่แก๊งทวงหนีไม่ยอมบอกว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขายไปได้เงินแค่ 8000 บาท บังคับลูกหนี้ต้องจ่าย 5000บาทลูกหนี้ก็ไม่ยอมจ่าย แก๊งรับจ้างทวงหนี้โวยวายข่มขู่ต่างๆนาๆและลงมือทำลายข้าวของใช้มือทุบโต๊ะวางของขาย ทำให้ลูกหนี้งรู้สึกกลัวไม่ปลอดภัยจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ว่านาย โจ กับพวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนาย โจ กับพวกให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด.
ภาพ-ข่าว นิรันดร์ ไชยชุติกาญจน์ มุกดาหาร