จากกรณีนางสาว เจนจิรา พึ้งวงค์ญาติ อายุ 53 ปี แม่ค้าผลไม้พ่วงข้าง ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวันที่ 11 ม.ค.67 เวลาประมาณ 13.20 น. พบคนร้ายเป็นผู้หญิงวัยประมาณ 25 ปี สวมเสื้อฮู๊ตสีชมภูปั่นจักรายานปั่นมาภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรวัดกู้2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นได้ก่อเหตุขโมยรถจยย.พ่วงข้างที่จอดไว้ที่ตึก… เสียบกุญแจค้างไว้ ระหว่างไปเข้าห้องน้ำ แล้วขับหลบหนีออกไปจากหมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุไปยังหมู่บ้านดังกล่าว สอบถามนางสาวเจนจิรา ผู้เสียหาย เจ้าของรถจยย.พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้าเวฟ110 i สีขาว-ชมพู ทะเบียน 1กฌ2603 อ่างทอง เปิดเผยว่า วันเกอดเหตุตนได้ขับขี่รถจยย.มาที่ห้องพัก แล้วจอดรถจยย.ไว้หน้าตึก.. ก่อนเข้าห้องน้ำไม่ถึง 10 นาที ซึ่งตนเผลอลืมกุญแจเสียบคาไว้ ปรากฏว่าหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาไม่พบรถจยย.พ่วงข้างแล้ว จึงไปขอนิติดูกล้องพบว่ารถจยย.ถูกคนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงก่อเหตุขโมยรถจยย.หลบหนีออกไป โดยนำจักรยานปั่นมาเทิร์น หลังจากเกิดเหตุก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นตนก็ได้ตามหารถจยย.ตนทั่วหมู่บ้าน และย่านนี้ก็ไม่พบเจอ
วันต่อมาทางด้านผู้เช่ารายหนึ่งชื่อเต๋าที่อยู่ในหมู่บ้านตน ได้แจ้งข้อมูลที่อยู่ของคนร้ายให้ตน จนทราบว่าคนร้านอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน จึงเดินทางไปที่ตึกตามที่อยู่ที่ได้มาก็พบแม่ของแฟนผู้ก่อเหตุ และตัวผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุนำรถจยย.ไปจอดทิ้งไว้แถวถนนซ่อมสร้าง ปทุมธานี ทั้งนี้ยังบอกอีกว่าผู้ก่อเหตุนำรถจยย.ไปขับชนคนตายย่านหลักสี่ ซึ่งเท่าที่ฟังและดูจากการพูดคุยตนคิดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้สติไม่ค่อยดี และยังทราบว่าเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกด้วย จึงพาตัวไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ปากคำ จนกระทั่งตำรวจได้พาตัวไปเอารถจยย.ที่จอดไว้คืนได้สำเร็จ
จากการตรวจสอบสภาพรถมีความเสียหายประมาณ 7-8 จุด ประเมินค่าซ่อมประมาณ 1,500 บาท จากนั้นตำรวจก็ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องคดีว่าจะเอาอย่างไรต่อ ตนจึงเห็นใจแล้วถอนคำร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไม่ติดใจในเรื่องของคดีแพ่ง และอาญา เนื่องจากได้รถกลับคืนมา สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากขอบคุณทางคุณเต๋าที่บอกที่อยู่ของผู้ก่อเหตุกับตน และขอบคุณตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.ปากเกร็ดที่พาไปตามรถคืนกลับมาให้ตนได้อย่างรวดเร็ว
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี