ที่บริเวณกลางลำน้ำแม่ตุ๋ย ในหมู่บ้านสบเฟือง ตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตัวแทนชาวบ้านนำตัวแทน ส.ส.และ คกก.ธรรมาภิบาล จังหวัดลำปาง ลงตรวจสอบในพื้นที่ ที่ชาวบ้านร้องเรียน คือจุดที่บริษัทเอกชนซึ่งทำท่าทรายในพื้นที่ทำการขุดดินดูดทราย ยกคันดินขึ้นสูงซึ่งชาวบ้านสงสัยจึงได้วัดความกว้างของแม่น้ำตุ๋ย และพบว่ามีความกว้างเพียง 16 เมตร จึงสงสัยว่าแนวเขตที่บริษัทเอกชนขุดดินน่าจะรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ ประกอบกับก่อนหน้านั้นทางบริษัทฯได้ยอมรับกับชาวบ้านว่ารุกล้ำจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจนจึงของให้ อบต.บ้านเอื้อมมาวัดแนว แต่ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจาก อบต.อ้างว่าไม่มีนิติกร
ซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนไปในหลายระดับแต่เรื่องก็ยังเงียบ และเกรงส่าหากหากน้ำไหลมาก็จะชนคันดินและเซาะเข้ามาในพื้นที่และก็จะเกิดปัญญาตามมาเหมือนจุดเดิมที่ชาวบ้าน เคยประสบปัญหา เมื่อปลายปี 2565 หลังดูดทรายน้ำเปลี่ยนไหลกัดเซาะใต้ดินทำให้ตลิ่งที่ติดบ้านเรือนชาวบ้านตั้งแต่บ้านสบเฟือง ต.บ้านค่ายาวไปถึงบ้านบ้านฮ่อง ต.บ้านเอื้อม ทรุดตัวเป็นแนวยาว รวมถึงน้ำไหลหลากทำให้คันบ่อทรายพังทลายมวลน้ำจึงกัดเซาะที่ดินสาธารณประโยชน์ มีการบุกรุกพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันถึง 6 ไร่ ซึ่งคณะกรรมการระดับจังหวัดมีมติให้ อบต.บ้านเอื้อม ได้ฟ้องศาล ซึ่ง อบต.บ้านเอื้อม ได้ฟ้องบริษัทฯ รายดังกล่าวไปแล้วขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการ ซึ่งยังไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้ เนื่องจาก อบต.บ้านเอื้อมไม่ระบุความเสียหาย โดยอ้างว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ในเรื่องนี้
หลังจากนั้นทาง อบต.บ้านเอื้อม ได้สัญญากับชาวบ้านว่าจะไม่มีการอนุญาตให้บริษัทฯเอกชนดูดทรายในพื้นที่ดังกล่าวอีก แต่ มาในปี 2567 อบต.ได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนรายเดิมดูดทรายและเกิดปัญหาใหม่ขึ้นตามมาอีกในขณะนี้ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าบริษัทเอกชนฯได้ทำการขุดดินดูดทรายชิดกับพื้นที่ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และเกรงว่าเมื่อน้ำไหลมาจะทำให้จนแนวสันดินและกัดเซาะพื้นที่เช่นเดิม จึงขอให้ อบต.บ้านเอื้อมจัดหาเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจุดโฉนดและแนวเขตว่าตรงหรือไม่ เพราะบริษัทเอกชนยอมรับกับชาวบ้านว่าได้ดำเนินการรุกล้ำพื้นที่จริง แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ เนื่องจาก อบต.บ้านเอื้อม อ้างไม่มีนิติกร ซึ่งชาวบ้านสงสัยว่าเมื่อไม่มีนิติกร แต่ ทำไมสามารถอนุญาตให้ดำเนินการดูดทรายได้ จึงได้ร้องเรียนไปยัง ส.ส.ในพื้นที่ และประสาน คกก.ธรรมาภิบาลจังหวัดลำปาง และได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า.
ภาพ-ข่าว อัมรินทร์ วะนะวิเชียร จ.ลำปาง
